17.49K
คนดูทั้งหมด
MG HS PHEV น้ำมัน + ไฟฟ้า

• รถปลั๊กอินไฮบริด หนึ่ง, เติมน้ำมันเบนซิน สอง, ชาร์จไฟฟ้า

• MG HS PHEV จุดประกายการเข้าถึงรถปลั๊กอินไฮบริด ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี และราคาจำหน่าย 1,359,000 บาท 

• ฟรี ค่าบำรุงรักษา พร้อมอะไหล่ตามระยะนาน 5 ปี 

• รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

• ลองเช็คว่าหมดโปรโมชั่นหรือยัง สำหรับ ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง

• MG HS PHEV ครบครันด้วยระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)

• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)

• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)

• รวมแล้ว MG HS PHEV ประกอบไปด้วย 7 ระบบป้องกันอุบัติเหตุด้านหน้า

• 4 ระบบป้องกันอุบัติเหตุด้านท้ายรถ

• 14 ระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และการทรงตัว

• MG HS PHEV ออพชั่นมากกว่ารถปลั๊กอินไฮบริดฝ่ายยุโรป ราคาก็เบากว่า

• ท่านใดชอบแบรนด์ ชอบสไตล์ ก็แล้วแต่รสนิยม

• จุดนี้ Drive Tripper มองถึงความคุ้มค่า นำไปบรรทุกถุงดิน (ฮา) 

• MG HS PHEV ติดตั้งม่านกั้นสัมภาระ พร้อมปลั๊กชาร์จไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

• ประตูท้ายเปิด - ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

• เบาะหลัง MG HS PHEV พับราบเชื่อมต่อ เพิ่มความอเนกประสงค์

• น้ำมันเต็มถัง พร้อมชาร์จไฟฟ้าเต็ม MG HS PHEV จะขับขี่รวมได้กี่กิโลเมตร

• ระยะทางสำหรับโหมด EV อยู่ที่ 67 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟฟ้าเต็ม 

• ระยะเวลาการชาร์จแบบ AC ด้วย MG Home Charger ใช้เวลา 4 ชั่วโมง และ MG Charging Cable 5 ชั่วโมง

• วิ่งด้วยโหมด EV จะเห็นผลในการช่วยอัตราประหยัดน้ำมัน หากชีวิตประจำวันส่วนใหญ่อยู่ในเมือง และปริมณฑล บ้าน - ออฟฟิศ กลับถึงบ้านก็ชาร์จไฟฟ้า

• Drive Tripper ทดสอบ MG HS PHEV กับทริปในเมือง เห็นผลจริง

• ประเด็นการอยู่คอนโดมิเนียมสำหรับวิถีคนรุ่นใหม่นั้น จะชาร์จไฟฟ้าที่ไหน 

• ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริการจุดชาร์จไฟฟ้าสาธารณะครอบคลุมพอสมควร ลองเสิร์ช Google Maps เจอทันที 

• หรือหนึ่งอาทิตย์ชาร์จไฟฟ้าสักครั้ง แต่ทาง MG ให้ข้อมูลว่าสามารถทิ้งไว้ได้อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งจึงนำมาชาร์จไฟฟ้าให้เต็ม 100%

• Drive Tripper พา MG HS PHEV ทัวร์เส้นทางระหว่างจังหวัด กรุงเทพฯ ปราณบุรี สามร้อยยอด 

• น้ำมันเต็มถัง ผสานกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟฟ้าเต็ม กลับมาเติมน้ำมันที่ชะอำ ได้ระยะทาง 401.1 กิโลเมตร บนหน้าปัดแสดง 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร วิ่งต่อได้อีก 61 กิโลเมตร

• เมื่อ EV เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ แต่ความจริงยังมีแบตเตอรี่สำรองอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ สัมผัสได้ขณะถอยหลัง หรือออกตัวความเร็วต่ำ

• ไม่สะดวกตรงที่เวลาเติมน้ำมันกลับเข้าไปให้เต็มถัง เซ็นเซอร์ของรถจะตัดหัวจ่ายเร็ว ต้องเติมหลายครั้ง ผู้ใช้สังเกตมาตรวัดน้ำมันด้วยว่าเติมกลับไปเต็มหรือไม่

• Drive Tripper จึงใช้วิธีเติมได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น แล้วเซท 0 หาอัตราสิ้นเปลืองโดยวิ่งน้ำมันล้วน ๆ ระยะทาง 328.2 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 9.4 กิโลเมตรต่อลิตร

• MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) แตะที่แป้น + / - หลังพวงมาลัย เลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ 3 ระดับ

• ได้ไฟฟ้ากลับคืนไม่มาก กว่าจะได้สัก 5% ใช้ระยะทางขับขี่ไกล 

• MG HS PHEV เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า มอบกำลังรวมทั้งระบบ 284 แรงม้า PS แรงบิด 480 นิวตัน - เมตร

• อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.5 วินาที

• ตัวเลขสิ้นเปลืองน้ำมันเบนซินล้วน ๆ ของ MG HS PHEV ใกล้เคียง MG HS ที่ Drive Tripper ขับไปเที่ยวดอยตาปัง

• หากถามว่ารุ่นไหนน่าสนใจกว่ากัน กับราคาต่างกัน 240,000 บาท (ถ้าได้แถม MG Home Charger จะคุ้มมาก) บางท่านบอกว่าเอาส่วนต่างไปเติมน้ำมันก็น่าจะพอกัน จุดนี้แล้วแต่พิจารณา

• ถ้ามองในแง่ของสมรรถนะ MG HS PHEV เมื่อยังมีไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้ใช้งาน จะขับสมูทกว่า ออกตัวเร็วกว่า ขับขี่สนุกกว่า MG HS

• โดยเฉพาะทางไกล MG HS PHEV ขับคล่อง ลื่นไหล และผ่อนคลายกว่า MG HS ที่บางคราวจังหวะเร่งแซงอาจส่งเสียงให้คุณรู้สึกลุ้นอยู่บ้าง

• การเจอกับคู่แข่ง ขุมพลังไฮบริด Toyota Corolla Cross ซันรูฟ ราคา 1,199,000 บาท เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของหลายท่านที่ไม่อยากเป็นภาระในการชาร์จไฟฟ้า

• อย่างไรก็ตาม MG HS PHEV เป็นก้าวแรกของเทคโนโลยีรถปลั๊กอินไฮบริดที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดในตลาดขณะนี้ แถมออพชั่นสุดจริง ๆ

• ทั้งนี้ลอง MG HS PHEV ในโหมดขับขี่หลากหลาย โดยนอกจากโหมด EV ก็ยังมีโหมด Normal , Eco และ Sport 

• ขอบหน้าปัดของหน้าจอดิจิตอล 12 นิ้ว เปลี่ยนสีตามโหมดที่เลือก 

• MG HS PHEV ติดตั้งปุ่ม Super Sport (สีแดง) บนพวงมาลัย ทะยานเร็วไปอีกขั้น

• MG HS PHEV กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของ MG แบบ Stellar Magnetic Field

• MG HS PHEV ไฟหน้าแบบ LED Projector 

• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)

• ไฟเลี้ยวหน้า - หลังแบบซีเควนเชียล ไล่ระดับให้สังเกตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

• MG HS PHEV ล้ออัลลอยใหม่ ยางขนาด 235/50 R18

• MG HS PHEV ภายใน 2-Tone Monaco Blue

• กุญแจ Smart Key พร้อมปุ่มสตาร์ท

• ระบบกรองอากาศ PM 2.5

• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 10 นิ้ว

• สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย

• ซันรูฟขนาดใหญ่

• ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เชื่อมต่อโลกออนไลน์ สามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งรูปแบบออนไลน์ และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำทาง

• รายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งอ่านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ อย่างทันเหตุการณ์

• สามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านช่องทางออนไลน์

• มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า

• ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ

• ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของ MG ช่วยค้นหาศูนย์บริการ

• บันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application

• MG HS PHEV เครื่องเสียง BOSE 8.1 Sound System

• ตกแต่งฝาครอบลำโพงด้วยโครเมียม

• MG HS PHEV กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ

• ไม่แนะนำสำหรับ MG HS PHEV จอดแล้วใส่เกียร์ N เพื่อเข็น เพราะอาจทำความเสียหายให้ระบบขับเคลื่อน มีผลต่อการรับประกันคุณภาพ

• เบาะดีไซน์สปอร์ต

• เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

• เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

• แอร์แยกส่วนสำหรับเบาะหลัง

• ช่อง USB สองจุด

• เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก

• สร้างบรรยากาศ และสีสันให้กับการขับขี่ MG HS PHEV ด้วย Interactive Ambient Light ปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• MG ZS เที่ยวน่าน