9.53K
คนดูทั้งหมด
MG HS ชุมพร

• SUV ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากคือ MG HS ด้วยราคาเปิดตัวเมื่อเทียบกับอุปกรณ์มาตรฐานที่อัดแน่น

• เริ่มต้นรุ่น C ราคา 919,000 บาท

• รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท

• รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท

• พิสูจน์ว่าตอบโจทย์การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง Drive Tripper ขับ MG HS รุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นท็อปมุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร ชมทะเลหมอก ‘ดอยตาปัง’

เขาดินสอ

• MG HS เวลา 10.00 น. ถึง ‘เขาดินสอ’ ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

• ความน่าสนใจของ ‘เขาดินสอ’ เป็นจุดชมเหยี่ยว และนกอินทรี เพราะอยู่บนเส้นทางการอพยพหลักหนีหนาวจากรัสเซีย และจีน ช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน

• ทุกปีจะมีเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพเขาดินสอ เช็คข่าวคราวก่อนออกเดินทาง

• ความท้าทายตอนใกล้เที่ยง จอด MG HS แล้วเดินขึ้นทางชันไปยังจุดชมวิวเขาดินสอ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร 

• สิ่งที่ต้องเตรียม คือทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะด้านบนไม่มีห้องน้ำ 

• ติดน้ำดื่ม ร่ม ยาดม ยาหม่องไปด้วย

• Drive Tripper ถึงจุดชมวิวเขาดินสอ แม้ผ่านเทศกาลดูเหยี่ยวมาแล้ว แต่คุ้มค่ากับวิวอ่าวไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 350 เมตร

• บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ยังมีข้อมูลการสังเกตเงาร่าง รูปทรงของเหยี่ยว และนกอินทรี

ศาลกรมหลวงชุมพร ฯ

• MG HS เวลา 15.30 น. ศาลกรมหลวงชุมพร ฯ หาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

• บรรยากาศระหว่างแรมทางรู้สึกถึงความพรีเมียมในห้องโดยสาร

• MG HS เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดง หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara

• MG HS วัสดุภายในแบบ Soft Touch ครอบคลุมทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้า ด้านหลัง

• ไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตู และปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้ถึง 64 เฉดสี รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่

• MG HS การตกแต่งดูแพงมากครับ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง

• MG HS มาตรวัดแบบ Interactive Multi - Function Display ขนาด 7 นิ้ว 

เขามัทรี

• ห่างจากศาลกรมหลวงชุมพร ฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร ขับ MG HS ขึ้น ‘เขามัทรี’ เวลา 16.50 น. เพื่อรอแสงสุดท้ายของวัน

• ชมวิวกันเพลินในวันธรรมดา เพราะนักท่องเที่ยวน้อย

• เมืองชุมพรห่างจากดอยตาปังประมาณ 90 กิโลเมตร คืนนี้พักผ่อนในเมืองชุมพร

• มีสองทางเลือก เช้าตรู่ออกจากเมืองชุมพร แล้วดิ่งไปให้ทันรถกระบะขึ้นดอยตาปัง ราว 6 โมงเช้า 

• ด้วยวัยแล้วไม่ควรหักโหม (ฮา) จึงตัดสินใจใช้แผน ส.ว. (สูงวัย) คือสาย ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนออกจากเมืองชุมพร ไปค้างที่โฮมสเตย์ใกล้ ๆ ดอยตาปัง เช้าอีกวันจึงขึ้นไปลุ้นชมทะเลหมอก

• วันต่อมา MG HS ใช้ถนนหลักเส้น 41 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 4139 สักพักจะเป็นถนนสองเลนสวน ให้ขับตรงมาตลอดจนถึงสามแยก ด้านหน้าจะเป็น 7-11 เข้าไปตุนเสบียง

• จากสามแยกให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงมาจะถึงทางแยกให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปดอยตาปัง จุดสังเกตคือป้ายโรงเรียนบ้านห้วยกลาง

• MG HS ขับเข้ามาแล้ว จะผ่านจุดรวมพลขึ้นดอยตาปังอยู่ด้านซ้ายมือ

• ด้านขวาของ MG HS คือ Malila Coffee บริการเครื่องดื่ม และข้าง ๆ จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง รวมถึงกระโจมพัก

• Drive Tripper ไม่ได้พักที่นี่ เพราะนักท่องเที่ยวซึ่งขับรถมาจากสิงคโปร์จองเต็มหมด

• เราได้ที่พักถัดไปเล็กน้อย ‘กันเองโฮมสเตย์บนดอย’ ห้องพักกว้าง สะอาด เจ้าของอัธยาศัยดี

• 6 โมงเช้า รถกระบะมารับเราที่ ‘กันเองโฮมสเตย์บนดอย’ สนนราคาคันละ 500 บาทต่อเที่ยว หารค่าโดยสารตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่โดยสารขึ้นไป แต่ไม่เกิน 10 คน

• เช้าวันนี้มีแค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อแนะนำว่าควรเที่ยวดอยตาปังในวันธรรมดา

• เส้นทางขึ้นดอยตาปังคล้าย ๆ กับขึ้นภูชี้ดาว เชียงราย ถนนชัน แคบ ไม่ควรนำรถส่วนตัวขึ้นมา ด้านบนที่จอดน้อย

• หากเป็นช่วงเทศกาล วันหยุดยาว ลานชมทะเลหมอกบนดอยตาปัง แทบไม่มีที่ยืน ซึ่ง Drive Tripper เห็นภาพนั้นแล้วแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผู้คนจะหลั่งไหลขึ้นมามากมาย

• ขณะรอแสงแรก ชมขอบฟ้าก่อนพระอาทิตย์วันใหม่มาเยือน

• วันนี้บนดอยตาปังเป็นวันของเราครับ เมื่อกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจากสิงค์โปร์ลงไปหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น เหลือนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน 

• ยิ่งสาย แสงเริ่มแรง แดดส่องให้หมอกฟุ้งสวยงาม 

• คลื่นหมอกไหลตามยอดเขา มองเห็นช่องเขาทะลุอยู่ไกล ๆ

• ลงจากดอยตาปัง จิบกาแฟยามเช้าที่ Malila Coffee

• MG HS เช็คเอาท์ออกจากดอยตาปัง มาถึงสามแยกป้ายโรงเรียนบ้านห้วยกลาง เลี้ยวขวาไปที่โรงคั่วกาแฟเขาทะลุ อินเตอร์ จะมองเห็นช่องเขาทะลุในระยะใกล้

• สามารถขับชมวิถีชาวบ้าน วิ่งตรงต่อไปจะบรรจบกับ 4139 เหมือนตอนขามา และเชื่อมต่อออกถนนใหญ่ หมายเลข 41

พระบรมธาตุสวี

• MG HS มุ่งเข้ากรุง กลับสู่ถนนหมายเลข 41 ต้องผ่านวัดพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

• พระบรมธาตุสวี เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น ประดับด้วยรูปหัวช้างหมอบเสมือนค้ำพระเจดีย์ไว้โดยอยู่ในซุ้ม สลับกันกับรูปยักษ์ถือกระบอง 

พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี

• สิ่งที่ทำให้ Drive Tripper ตราตรึง และใช้เวลานานที่สุด คือภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ วัดพระบรมธาตุสวี ชมของเก่า ของโบราณ ประวัติความเป็นมาของเมืองชุมพร เดินชมอย่างสนุก 

• ตลอดทริปนี้ได้ใช้ฟังก์ชั่นที่มากมายของ MG HS ทั้งด้านความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

• ไฟหน้าแบบ LED Projector 

• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)

• ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ขนาดยาง 235/50 R18

• MG HS ไฟท้ายแบบ Space Light Field

• ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้า - หลัง แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential

• MG HS เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60 : 40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้

• ที่วางแขนขนาดใหญ่

• ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate)

• MG HS หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร

• MG HS หน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว

• MG HS ระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART 

• Smart Command ระบบสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก สั่งการควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด - ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด - ปิดหลังคาซันรูฟ

• Smart Connect ค้นหาเพลงฮิต เพลงดังผ่าน Online Music ร้านอาหารเด็ด สถานที่ท่องเที่ยว และโรงแรม 

• Smart Check ตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็กรถ MG Mobile Application

• MG HS ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

• MG HS กุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start

• MG HS เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 162 แรงม้า PS ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน - เมตร ที่ 1,700 - 4,400 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E85

• MG HS ระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด

• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

• ปรับโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal Eco Sport และ Custom 

• MG HS ติดตั้งปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัย เพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมหน้าปัดที่เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Sport

• MG HS ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) 

• ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program) 

• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) 

• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) 

• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) 

• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

• MG HS ระบบเปิด - ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) 

• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) 

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 

• MG HS ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) 

• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) 

• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)  

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)  

• ถุงลมนิรภัย 6 จุด

• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)

10.38

• อัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุดของทริป เป็นถังแรกจากกรุงเทพฯ ผสมผสานหลายออกเทนจากมือทดสอบก่อนหน้านี้ แสดงระยะทางวิ่ง 529 กิโลเมตร

• ล่องใต้ความเร็วเดินทาง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• ถึงท่าแซะ ระยะทาง 504.3 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 66 กิโลเมตร

• หน้าปัดแสดง 8.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 11.49 กิโลเมตรต่อลิตร

• เติม E20 กลับเข้าไป 48.54 ลิตร (ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร) เฉลี่ย 10.38 กิโลเมตรต่อลิตร

• เต็มถังไปต่อ 573 กิโลเมตร

E20

• น้ำมันถังที่ 2 เป็น E20 ส่วนใหญ่เป็นทางเลนสวน เร่งแซงบ่อย ผ่านชุมชนหลายช่วง

• ท่าแซะไปหาดทรายรี ขึ้นเขามัทรี ไปดอยตาปัง

• จากดอยตาปัง แวะพระบรมธาตุสวี วิ่งเลียบถนนชายทะเลออกมาเติมพลังที่ถนนหลักแถวบางสะพาน 

• ได้ระยะทาง 377.2 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 74 กิโลเมตร

• หน้าปัดแสดง 11.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 8.40 กิโลเมตรต่อลิตร

• เติม E85 กลับเข้าไป 46.46 ลิตร เฉลี่ย 8.11 กิโลเมตรต่อลิตร

• เต็มถังแสดงบนหน้าปัด 530 กิโลเมตร มุ่งเข้าเมืองหลวง

E85

• น้ำมันถังที่ 3 เป็น E85 วิ่งตรงยาว ๆ เข้ากรุงเทพฯ ความเร็วทางโล่ง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

• จอดคืนที่ถนนศรีนครินทร์ รวมระยะทาง 401.9 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 110 กิโลเมตร

• หน้าปัดแสดง 10.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 9.70 กิโลเมตรต่อลิตร

• การขับขี่ทางไกล MG HS ไป - กลับ กรุงเทพฯ - ชุมพร ผจญภัยหลายมิติบนถนนทางหลวง สิ่งแรกที่ปรากฏชัดเจน คือสิ่งอำนวยความสะดวกสบายไฮเทค และระบบความปลอดภัยที่ล้นเหลือ 

• สัมผัส และใช้งานได้จริง ใช้ไม่หมด จะจับต้องตรงไหนก็มี ‘เทคโนโลยีรองรับ’ จนลืมว่านี่คือ SUV ระดับล้านต้น ๆ เท่านั้น เรียกว่าแบรนด์ลักซัวรี่ หรือแบรนด์เจ้าตลาดต้องมองค้อนกันเลยทีเดียว

• การตกแต่งห้องโดยสารของ MG HS รู้สึกได้ถึงคำว่า ‘ให้เยอะแบบมีคุณภาพ’ 

• แม้สีสันของเบาะจะเป็นสไตล์ Sport แต่ผู้ใหญ่ก็นั่งขับได้ เพราะแฝงความลักซัวรี่เข้ามาด้วย นั่งสบายตลอดทริป และเบาะแถวหลังกว้างขวาง

• ช่วงล่าง MG HS ผ่านถนนเป็นลอนหรือไม่เรียบจะซับแรงจากพื้นส่งถึงผู้โดยสารในแบบนุ่มนวล 

• การทรงตัว การเข้าโค้ง ถือว่าหนึบ เกาะถนน

• ขุมพลังเทอร์โบ เมื่ออยู่บนถนนสองเลนสวนมีอาการรอรอบเทคออฟเล็กน้อย เมื่อต้องฉีกขวาเร่งแซงให้พ้นรถช้าด้านหน้า

• ทางไกล 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับผ่อนคลาย ปล่อยไหลต่อเนื่องจะแซงไว

• การเปลี่ยนเกียร์ทำงานอย่างราบรื่น 

• เบรกตอบสนองฉับไว พร้อมระบบความปลอดภัยรอบคันมาตรฐานรถพรีเมียม

• การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ถาโถมเข้ามา หรือที่เราได้ยินบ่อย ๆ กับคำว่า ดิสรัปชั่น (Disruption) ส่งผลในทุกสาขาอาชีพ

• ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน และสูตรสำเร็จตายตัว เช่นเดียวกับคลื่นทะเลหมอกในแต่ละวินาทีย่อมเปลี่ยนรูปทรง และเปลี่ยนทิศทางตามกระแสลม

• ต้นปี 2562 MG จำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน

• ปัจจุบัน MG เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ที่ชลบุรี

• เทคโนโลยีที่รุดหน้าทำให้การพัฒนารุ่นต่อรุ่นของ MG ในเมืองไทยใช้เวลาสั้นมาก และปรับตัวได้ตรงใจ ตรงความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว

• MG HS คือดิสรัปชั่นสำหรับ SUV เมืองไทย