• SUV ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากคือ MG HS ด้วยราคาเปิดตัวเมื่อเทียบกับอุปกรณ์มาตรฐานที่อัดแน่น
• เริ่มต้นรุ่น C ราคา 919,000 บาท
• รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
• รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท
• พิสูจน์ว่าตอบโจทย์การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง Drive Tripper ขับ MG HS รุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นท็อปมุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร ชมทะเลหมอก ‘ดอยตาปัง’
เขาดินสอ
• MG HS เวลา 10.00 น. ถึง ‘เขาดินสอ’ ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
• ความน่าสนใจของ ‘เขาดินสอ’ เป็นจุดชมเหยี่ยว และนกอินทรี เพราะอยู่บนเส้นทางการอพยพหลักหนีหนาวจากรัสเซีย และจีน ช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน
• ทุกปีจะมีเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพเขาดินสอ เช็คข่าวคราวก่อนออกเดินทาง
• ความท้าทายตอนใกล้เที่ยง จอด MG HS แล้วเดินขึ้นทางชันไปยังจุดชมวิวเขาดินสอ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
• สิ่งที่ต้องเตรียม คือทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะด้านบนไม่มีห้องน้ำ
• ติดน้ำดื่ม ร่ม ยาดม ยาหม่องไปด้วย
• Drive Tripper ถึงจุดชมวิวเขาดินสอ แม้ผ่านเทศกาลดูเหยี่ยวมาแล้ว แต่คุ้มค่ากับวิวอ่าวไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 350 เมตร
• บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ยังมีข้อมูลการสังเกตเงาร่าง รูปทรงของเหยี่ยว และนกอินทรี
ศาลกรมหลวงชุมพร ฯ
• MG HS เวลา 15.30 น. ศาลกรมหลวงชุมพร ฯ หาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
• บรรยากาศระหว่างแรมทางรู้สึกถึงความพรีเมียมในห้องโดยสาร
• MG HS เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดง หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara
• MG HS วัสดุภายในแบบ Soft Touch ครอบคลุมทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้า ด้านหลัง
• ไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตู และปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้ถึง 64 เฉดสี รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่
• MG HS การตกแต่งดูแพงมากครับ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง
• MG HS มาตรวัดแบบ Interactive Multi - Function Display ขนาด 7 นิ้ว
เขามัทรี
• ห่างจากศาลกรมหลวงชุมพร ฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร ขับ MG HS ขึ้น ‘เขามัทรี’ เวลา 16.50 น. เพื่อรอแสงสุดท้ายของวัน
• ชมวิวกันเพลินในวันธรรมดา เพราะนักท่องเที่ยวน้อย
• เมืองชุมพรห่างจากดอยตาปังประมาณ 90 กิโลเมตร คืนนี้พักผ่อนในเมืองชุมพร
• มีสองทางเลือก เช้าตรู่ออกจากเมืองชุมพร แล้วดิ่งไปให้ทันรถกระบะขึ้นดอยตาปัง ราว 6 โมงเช้า
• ด้วยวัยแล้วไม่ควรหักโหม (ฮา) จึงตัดสินใจใช้แผน ส.ว. (สูงวัย) คือสาย ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนออกจากเมืองชุมพร ไปค้างที่โฮมสเตย์ใกล้ ๆ ดอยตาปัง เช้าอีกวันจึงขึ้นไปลุ้นชมทะเลหมอก
• วันต่อมา MG HS ใช้ถนนหลักเส้น 41 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 4139 สักพักจะเป็นถนนสองเลนสวน ให้ขับตรงมาตลอดจนถึงสามแยก ด้านหน้าจะเป็น 7-11 เข้าไปตุนเสบียง
• จากสามแยกให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงมาจะถึงทางแยกให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปดอยตาปัง จุดสังเกตคือป้ายโรงเรียนบ้านห้วยกลาง
• MG HS ขับเข้ามาแล้ว จะผ่านจุดรวมพลขึ้นดอยตาปังอยู่ด้านซ้ายมือ
• ด้านขวาของ MG HS คือ Malila Coffee บริการเครื่องดื่ม และข้าง ๆ จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง รวมถึงกระโจมพัก
• Drive Tripper ไม่ได้พักที่นี่ เพราะนักท่องเที่ยวซึ่งขับรถมาจากสิงคโปร์จองเต็มหมด
• เราได้ที่พักถัดไปเล็กน้อย ‘กันเองโฮมสเตย์บนดอย’ ห้องพักกว้าง สะอาด เจ้าของอัธยาศัยดี
• 6 โมงเช้า รถกระบะมารับเราที่ ‘กันเองโฮมสเตย์บนดอย’ สนนราคาคันละ 500 บาทต่อเที่ยว หารค่าโดยสารตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่โดยสารขึ้นไป แต่ไม่เกิน 10 คน
• เช้าวันนี้มีแค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อแนะนำว่าควรเที่ยวดอยตาปังในวันธรรมดา
• เส้นทางขึ้นดอยตาปังคล้าย ๆ กับขึ้นภูชี้ดาว เชียงราย ถนนชัน แคบ ไม่ควรนำรถส่วนตัวขึ้นมา ด้านบนที่จอดน้อย
• หากเป็นช่วงเทศกาล วันหยุดยาว ลานชมทะเลหมอกบนดอยตาปัง แทบไม่มีที่ยืน ซึ่ง Drive Tripper เห็นภาพนั้นแล้วแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผู้คนจะหลั่งไหลขึ้นมามากมาย
• ขณะรอแสงแรก ชมขอบฟ้าก่อนพระอาทิตย์วันใหม่มาเยือน
• วันนี้บนดอยตาปังเป็นวันของเราครับ เมื่อกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจากสิงค์โปร์ลงไปหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น เหลือนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน
• ยิ่งสาย แสงเริ่มแรง แดดส่องให้หมอกฟุ้งสวยงาม
• คลื่นหมอกไหลตามยอดเขา มองเห็นช่องเขาทะลุอยู่ไกล ๆ
• ลงจากดอยตาปัง จิบกาแฟยามเช้าที่ Malila Coffee
• MG HS เช็คเอาท์ออกจากดอยตาปัง มาถึงสามแยกป้ายโรงเรียนบ้านห้วยกลาง เลี้ยวขวาไปที่โรงคั่วกาแฟเขาทะลุ อินเตอร์ จะมองเห็นช่องเขาทะลุในระยะใกล้
• สามารถขับชมวิถีชาวบ้าน วิ่งตรงต่อไปจะบรรจบกับ 4139 เหมือนตอนขามา และเชื่อมต่อออกถนนใหญ่ หมายเลข 41
พระบรมธาตุสวี
• MG HS มุ่งเข้ากรุง กลับสู่ถนนหมายเลข 41 ต้องผ่านวัดพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
• พระบรมธาตุสวี เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น ประดับด้วยรูปหัวช้างหมอบเสมือนค้ำพระเจดีย์ไว้โดยอยู่ในซุ้ม สลับกันกับรูปยักษ์ถือกระบอง
พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี
• สิ่งที่ทำให้ Drive Tripper ตราตรึง และใช้เวลานานที่สุด คือภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ วัดพระบรมธาตุสวี ชมของเก่า ของโบราณ ประวัติความเป็นมาของเมืองชุมพร เดินชมอย่างสนุก
• ตลอดทริปนี้ได้ใช้ฟังก์ชั่นที่มากมายของ MG HS ทั้งด้านความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
• ไฟหน้าแบบ LED Projector
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ขนาดยาง 235/50 R18
• MG HS ไฟท้ายแบบ Space Light Field
• ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้า - หลัง แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential
• MG HS เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60 : 40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้
• ที่วางแขนขนาดใหญ่
• ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate)
• MG HS หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร
• MG HS หน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
• MG HS ระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
• Smart Command ระบบสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก สั่งการควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด - ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด - ปิดหลังคาซันรูฟ
• Smart Connect ค้นหาเพลงฮิต เพลงดังผ่าน Online Music ร้านอาหารเด็ด สถานที่ท่องเที่ยว และโรงแรม
• Smart Check ตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็กรถ MG Mobile Application
• MG HS ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• MG HS กุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start
• MG HS เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 162 แรงม้า PS ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน - เมตร ที่ 1,700 - 4,400 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E85
• MG HS ระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด
• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
• ปรับโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal Eco Sport และ Custom
• MG HS ติดตั้งปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัย เพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมหน้าปัดที่เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Sport
• MG HS ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• MG HS ระบบเปิด - ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• MG HS ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ถุงลมนิรภัย 6 จุด
• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)
10.38
• อัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุดของทริป เป็นถังแรกจากกรุงเทพฯ ผสมผสานหลายออกเทนจากมือทดสอบก่อนหน้านี้ แสดงระยะทางวิ่ง 529 กิโลเมตร
• ล่องใต้ความเร็วเดินทาง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ถึงท่าแซะ ระยะทาง 504.3 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 66 กิโลเมตร
• หน้าปัดแสดง 8.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 11.49 กิโลเมตรต่อลิตร
• เติม E20 กลับเข้าไป 48.54 ลิตร (ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร) เฉลี่ย 10.38 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังไปต่อ 573 กิโลเมตร
E20
• น้ำมันถังที่ 2 เป็น E20 ส่วนใหญ่เป็นทางเลนสวน เร่งแซงบ่อย ผ่านชุมชนหลายช่วง
• ท่าแซะไปหาดทรายรี ขึ้นเขามัทรี ไปดอยตาปัง
• จากดอยตาปัง แวะพระบรมธาตุสวี วิ่งเลียบถนนชายทะเลออกมาเติมพลังที่ถนนหลักแถวบางสะพาน
• ได้ระยะทาง 377.2 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 74 กิโลเมตร
• หน้าปัดแสดง 11.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 8.40 กิโลเมตรต่อลิตร
• เติม E85 กลับเข้าไป 46.46 ลิตร เฉลี่ย 8.11 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังแสดงบนหน้าปัด 530 กิโลเมตร มุ่งเข้าเมืองหลวง
E85
• น้ำมันถังที่ 3 เป็น E85 วิ่งตรงยาว ๆ เข้ากรุงเทพฯ ความเร็วทางโล่ง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• จอดคืนที่ถนนศรีนครินทร์ รวมระยะทาง 401.9 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 110 กิโลเมตร
• หน้าปัดแสดง 10.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 9.70 กิโลเมตรต่อลิตร
• การขับขี่ทางไกล MG HS ไป - กลับ กรุงเทพฯ - ชุมพร ผจญภัยหลายมิติบนถนนทางหลวง สิ่งแรกที่ปรากฏชัดเจน คือสิ่งอำนวยความสะดวกสบายไฮเทค และระบบความปลอดภัยที่ล้นเหลือ
• สัมผัส และใช้งานได้จริง ใช้ไม่หมด จะจับต้องตรงไหนก็มี ‘เทคโนโลยีรองรับ’ จนลืมว่านี่คือ SUV ระดับล้านต้น ๆ เท่านั้น เรียกว่าแบรนด์ลักซัวรี่ หรือแบรนด์เจ้าตลาดต้องมองค้อนกันเลยทีเดียว
• การตกแต่งห้องโดยสารของ MG HS รู้สึกได้ถึงคำว่า ‘ให้เยอะแบบมีคุณภาพ’
• แม้สีสันของเบาะจะเป็นสไตล์ Sport แต่ผู้ใหญ่ก็นั่งขับได้ เพราะแฝงความลักซัวรี่เข้ามาด้วย นั่งสบายตลอดทริป และเบาะแถวหลังกว้างขวาง
• ช่วงล่าง MG HS ผ่านถนนเป็นลอนหรือไม่เรียบจะซับแรงจากพื้นส่งถึงผู้โดยสารในแบบนุ่มนวล
• การทรงตัว การเข้าโค้ง ถือว่าหนึบ เกาะถนน
• ขุมพลังเทอร์โบ เมื่ออยู่บนถนนสองเลนสวนมีอาการรอรอบเทคออฟเล็กน้อย เมื่อต้องฉีกขวาเร่งแซงให้พ้นรถช้าด้านหน้า
• ทางไกล 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับผ่อนคลาย ปล่อยไหลต่อเนื่องจะแซงไว
• การเปลี่ยนเกียร์ทำงานอย่างราบรื่น
• เบรกตอบสนองฉับไว พร้อมระบบความปลอดภัยรอบคันมาตรฐานรถพรีเมียม
• การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ถาโถมเข้ามา หรือที่เราได้ยินบ่อย ๆ กับคำว่า ดิสรัปชั่น (Disruption) ส่งผลในทุกสาขาอาชีพ
• ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน และสูตรสำเร็จตายตัว เช่นเดียวกับคลื่นทะเลหมอกในแต่ละวินาทีย่อมเปลี่ยนรูปทรง และเปลี่ยนทิศทางตามกระแสลม
• ต้นปี 2562 MG จำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน
• ปัจจุบัน MG เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ที่ชลบุรี
• เทคโนโลยีที่รุดหน้าทำให้การพัฒนารุ่นต่อรุ่นของ MG ในเมืองไทยใช้เวลาสั้นมาก และปรับตัวได้ตรงใจ ตรงความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
• MG HS คือดิสรัปชั่นสำหรับ SUV เมืองไทย