• Drive Tripper พาคณะทัวร์ NEW MG ZS โดยสารเต็ม 5 ที่นั่ง เริ่มต้นที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน
• ใช้ Google Maps ไม่หลง ออกจากอำเภอปัว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 1256 ได้ไม่ไกล ด้านซ้ายมือพระธาตุเบ็งสกัด
• ต่อเนื่องด้วยถนนหมายเลข 1256 ไต่ขึ้นดอย แวะบ่อเกลือ บ้านสะปัน
• แล้วใช้ถนนหมายเลข 1081 ผ่านทางโค้งที่คล้ายเลข 3 กลับลงทางอำเภอสันติสุข เข้าอำเภอเมือง จังหวัดน่าน
• สถานที่ท่องเที่ยวรายทางแต่ละแห่ง ผู้คนเนืองแน่นในช่วงวันหยุดยาว
• ที่ตัวเมืองน่าน ขึ้นไปชมหมอกยามเช้า วัดพระธาตุเขาน้อย
• ชมภาพ ‘ปู่ม่านย่าม่าน’ วัดภูมินทร์
• พระธาตุแช่แห้ง ขณะนี้อยู่ในช่วงบูรณะ
• ชิมของหวานป้านิ่ม
• พาลูกทัวร์ ชิม ช้อป จนหนำใจ พอค่ำ ๆ ส่งกลับพระนคร
• เช้าวันพรุ่งนี้ เหลือเพียง 2 คน เริ่มทริปอย่างเป็นทางการ NEW MG ZS ย้อนทางเดิมจากเมืองน่านกลับไปอำเภอปัว
ตึกรังษีเกษม
• อีกมุมหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองน่าน ‘ตึกรังษีเกษม’ ภายในโรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา
• สร้างตึกกลางแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459
• ต่อมาสร้างตึกฝั่งซ้ายในปี พ.ศ 2461 และต่อเติมตึกฝั่งขวาแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2467
• ภาพที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้ ตึกรังษีเกษมได้รับการบูรณะล่าสุด โดยเปลี่ยนหลังคา เสริมโครงสร้างให้แข็งแรง แต่ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมครั้งอดีต
• เปิดให้เข้าชมแม้อยู่ในช่วงปรับปรุงนิทรรศการ กำหนดเสร็จวันที่ 31 สิงหาคม 2564 บางห้องบนชั้น 2 ยังไม่เรียบร้อยดี
• หนึ่งในจุดโดดเด่น คือด้านบนประตู และหน้าต่าง จะเป็นทรงโค้งวงกลมทุกบาน
• แนะนำหลีกเลี่ยงมาตึกรังษีเกษมในวันธรรมดา เพราะเหล่าหนู ๆ เรียนหนังสือ
• วันเสาร์ - อาทิตย์จะเงียบกว่า และควรมาเช้า ๆ
• ตึกรังษีเกษม เวลาทำการ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 15.30 น.
• วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา เวลา 08.30 - 16.00 น.
• กรณีต้องการนักสื่อความหมาย เพื่อแนะนำเกล็ดความรู้ในแต่ละส่วน ควรติดต่อล่วงหน้าหนึ่งวัน โทร. 087 178 2588 , 061 736 5421
• เข้ามาในตึกรังษีเกษม ให้เลี้ยวซ้ายมาจุดนี้ก่อน
• ถ่ายภาพด้านล่างนี้ไว้ เพราะทำให้เดินชมได้สนุกขึ้น
• บอกจุดต่าง ๆ ที่เป็นเสน่ห์ของตึกรังษีเกษม
• ทางซีกซ้ายของตึกรังษีเกษม เดินออกประตูไปจะเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
• จัดเก้าอี้ให้นั่ง พร้อมพร๊อพคลาสสิก แนะนำว่าควรจะมาเก็บภาพที่นี่ก่อนเลย
• ตึกรังษีเกษมทางฝั่งซ้ายยังมีมุมเก๋ ๆ ย้อนยุคให้ถ่ายภาพอีกสองห้อง รวมถึงผนังอาคารใกล้บันได
• ฝั่งขวาของตึกรังษีเกษม ภาพขนาดใหญ่ของเจ้านายในอดีต
• แหงนหน้ามองบนเพดาน จะเห็น 'ซี่ไม้กากบาท' มีไว้เพื่อป้องกันการคดงอของไม้ต๋ง และช่วยสร้างลวดลายบนเพดาน
• ผ่านประตูเข้าไปจะเป็นห้องจัดแสดงของเก่า ของโบราณ
• ที่มาของชื่อ ‘รังษีเกษม’ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
• เมื่อครั้งเสด็จเยี่มมชมกิจการของศูนย์มิชชันน่านในปี พ.ศ. 2460
• ทางขึ้นชั้น 2 ตึกรังษีเกษม
• สังเกตพื้นระเบียงชั้น 2 จะมีลักษณะลาดเอียงไปนอกตึก ทำไว้ระบายน้ำให้ไหลออก
• ไม้กางเขนกระจกส่องแสง อายุกว่า 100 ปี อยู่บนชั้น 2 ตึกรังษีเกษม
• เก้าอี้ได้รับการออกแบบให้สามารถจัดเรียงได้หลากหลาย
• สามารถชมภาพโบราณ บอกเล่าเรื่องราวในอดีตนับพันภาพได้ทุกห้องในตึกรังษีเกษม
• ตึกรังษีเกษม เป็นตึกเดียวในน่านที่มีปล่องไฟ
ภูพยัคฆ์
• ก่อนออกจากเมืองน่าน คอกาแฟต้องไม่พลาดจิบกาแฟที่ ‘ภูพยัคฆ์’ รสชาติเข้มข้น
• ใช้ Google Maps บอกพิกัดไม่หลง อยู่ในเมือง ติดปั๊มน้ำมันเชลล์ ต้องจอดรถริมฟุตบาท
29 BASE
• ห่างจากอำเภอเมืองน่าน ประมาณ 42 กิโลเมตร อยู่ริมถนนหมายเลข 1081 นักแรมทางรู้จัก ‘ลุงโปส’ แห่ง 29 BASE เป็นอย่างดี แวะจิบกาแฟกันบ่อย ๆ
• 29 BASE มีบ้านพักเพียงสองหลัง และลานกางเต็นท์
• Drive Tripper ได้บ้านหลังใหม่ทางซ้ายมือ ส่วนบ้านหลังด้านขวาเป็นบ้านหลังเก่า หลังแรก
• ห้องพัก 29 BASE บานประตูเปิดกว้าง สามารถนอนชมดาว
• ห้องน้ำสุดท้าทายแบบโอเพ่นแอร์ ด้านหน้าไม่มีม่านกั้น (ฮา)
• 29 BASE ไม่มีอาหารเช้า และอาหารเย็น สะดวกที่สุด คือก่อนถึง 29 BASE ประมาณ 10 กิโลเมตร ต้องผ่านอำเภอสันติสุข แวะซื้อเสบียงให้เรียบร้อย
• หรือซื้อหมูกะทะจากร้านในตลาด เพราะ 29 BASE มีเตา ถ่าน จาน ชาม เตรียมไว้ให้ เพียงแต่คุณต้องเป็นผู้ชำนาญในการติดไฟถ่านด้วยตนเอง
• ถ้าสั่งหมูกะทะจาก 29 BASE ก็ต้องรอร้านกาแฟปิด ลุงโปสขับไปซื้อในอำเภอสันติสุขอยู่ดี ถ้าเราแวะซื้อเอง ช่วงเย็น ๆ จะได้ไม่เสียเวลาก่อฟืน
• ท้องร้องยามบ่าย ขับเลย 29 BASE เพียงแค่ 1 กิโลเมตร จะถึง 'ดอยกว่าง Atlasnan Coffee' เติมพลังด้วยข้าวผัดกะเพราลอยฟ้า และสามารถมองเห็นห้องพัก 29 BASE
• ฟ้ายามเย็น พระอาทิตย์จะตกฝั่งขวาของ 29 BASE
• วันนี้มีพักเพียงสองห้อง ไม่มีนักท่องเที่ยวกางเต็นท์ จึงเงียบสงัด
• ลมกรรโชกแรง ดาวเต็มฟ้า อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส
• รุ่งสางที่ 29 BASE หมอกเต็มแอ่งทางด้านขวามือ แต่วันนี้ไม่ไหลมาถึงหน้าห้องพัก จึงขึ้นไปเก็บภาพที่จุดชมวิว
• NEW MG ZS เปิดหลังคาซันรูฟรับอากาศเย็น ขับย้อนกลับมาก่อนถึงอำเภอสันติสุข หาพิกัดถ่ายภาพใกล้ทะลหมอก
• กลับมาจิบชาร้อน และกาแฟยามเช้าที่ 29 BASE ชมหมอกไกล ๆ ยังไม่จาง
• เป็นประสบการณ์ความประทับใจกับการขับรถเที่ยวแบบเนิบ ๆ ไม่รีบเร่ง
• บริเวณ 29 BASE สัญญาณอินเตอร์เน็ตแรง
• ไฟฟ้าจากแผงโซล่าร์เซลส์ ลองใช้แล้วเปิดได้ตลอดคืน
• แต่ห้ามนำเสียบชาร์จกับสมาร์ทโฟน เพราะดึก ๆ ลองต่อเชื่อมแล้ว พลังงานไฟฟ้าจะวูบเร็วมาก
• ทางที่ดีเตรียมเพาเวอร์แบงค์ลูกใหญ่ ๆ ไปด้วย จะได้ไม่พลาดโลกโซเชี่ยล
• เป็นไปอย่างที่ลุงโปสบอก อาบน้ำต้องใจเย็นหน่อย น้ำฝักบัวไม่แรงนัก แต่ชักโครกกดน้ำได้เกลี้ยงเกลา (ฮา)
Dai Dib Dai Dee
• ถึงอำเภอปัวเช็คอินที่ 'ปัว พาโนราม่า รีสอร์ท'
• ไฮไลท์ของค่ำคืนนี้อยู่ที่พิซซ่าเตาถ่าน กลางทุ่งนา Dai Dib Dai Dee (ได้ดิบได้ดี)
• ฟาร์มสเตย์ขนานแท้ ถ้าจะมาพัก แนะนำปลายฝนต้นหนาว นาข้าวเขียวขจี พร้อมกิจกรรมวิถีธรรมชาติ
• Dai Dib Dai Dee ร้านเปิดสี่โมงเย็น
• จองโต๊ะล่วงหน้าวันต่อวัน สอบถามได้ตั้งแต่เช้า ตามหมายเลข 087 178 5069
• Dai Dib Dai Dee มาก่อนเลือกโต๊ะก่อน จะบนร้านหรือริมทุ่งนา วิวภูเขา
• พิซซ่าจำกัดวันละไม่เกิน 20 ถาด ชมการผลิตได้อย่างใกล้ชิด
• Dai Dib Dai Dee ไม่ได้มีเพียงพิซซ่า ยังเสิร์ฟอาหารทานเล่นอื่น ๆ พร้อมเครื่องดื่ม ช่วงโพลเพล้บรรยากาศเย็นสบาย
• จากตัวเมืองปัว เซทพิกัด Google Maps มายัง Dai Dib Dai Dee ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร
• ใกล้จะถึงต้องเลี้ยวเข้าถนนข้างวัดดอนไชย
• ช่วงหน้าแล้งได้เคลียร์เส้นทาง สามารถขับลงถนนเลียบคันนา มีลานจอดรถแล้วเดินข้ามลำธารไปยัง Dai Dib Dai Dee
• แต่หากมาหน้าฝน ฤดูทำนา ต้องโทรเช็คกับทางร้านอีกครั้ง
• ยามเช้าที่ปัว พาโนราม่า รีสอร์ท
• ชี้เป้าวิวสวยแบบนี้ต้องพักชั้น 2 เท่านั้น ห้องที่ 2- 3 - 4 (ในภาพห้องที่ 2)
• ปัว พาโนราม่า รีสอร์ท อยู่ติด ‘นา เขา เรา น่าน’
บ้านจักษ์กะพัฒน์
• เช็คเอาท์จากอำเภอปัว พาโนราม่า รีสอร์ท NEW MG ZS ขึ้นบ้านสกาด เป็นอย่างไรหลังจากช่วงวันหยุดยาว
• จากอำเภอปัวขึ้นมาที่ ‘บ้านจักษ์กะพัฒน์’ ประมาณ 21 กิโลเมตร ในระยะทางนี้จะเป็นทางขึ้นเขาช่วง 12 กิโลเมตรสุดท้าย
• บ้านจักษ์กะพัฒน์ เป็นร้านกาแฟ และที่พัก คิวห้องพักเต็มยาว ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือน
• วิวสวย ๆ แนะนำปลายฝนต้นหนาว
• วันนี้ตั้งใจมาจิบกาแฟบ้านจักษ์กะพัฒน์ เมล็ดกาแฟปลูกที่นี่ คอกาแฟห้ามพลาด
• จากนั้นบ่าย ๆ จึงเดินทางกลับมหานคร
• NEW MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท คือรุ่นที่ขับท่องเที่ยวน่าน
• รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
• รุ่นเริ่มต้น รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
• NEW MG ZS กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
• ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ LED Projector ควบคุมการเปิด - ปิดอัตโนมัติ
• ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน
• ตกแต่งบริเวณไฟตัดหมอกด้วยวัสดุสีดำ เปียโนแบล็ค
• NEW MG ZS ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ แบบ LED
• MG ZS โฉมก่อน สวมยางขนาด 215/50 R17
• NEW MG ZS ปรับซีรี่ส์แก้มยางเป็น 215/55 R17 เพิ่มความนุ่มนวล
• NEW MG ZS ห้องโดยสารใช้วัสดุ SOFT TOUCH
• เทียบกับโฉมก่อนจะสลับสีดำไว้ด้านบน และสีน้ำตาลไว้ด้านล่าง เพื่อลดการสะท้อนแสง
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key)
• ปุ่ม Push Start
• NEW MG ZS หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 7 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ (Digital Multi - Function Display)
• NEW MG ZS เปลี่ยนเป็นหน้าจอทัชสกรีน ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว
• รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และ Android
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor)
• NEW MG ZS เพิ่มที่พักแขนระหว่างเบาะคู่หน้า
• คอนโซลเกียร์ตกแต่งใหม่ เพิ่มลายเคฟล่าร์
• NEW MG ZS เบาะนั่งคนขับ เพิ่มสวิทช์ปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง
• NEW MG ZS มีช่อง USB ถึง 5 จุด โดยเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB ด้านข้างกระจกมองหลังสำหรับต่อกล้อง
• ช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลังอีก 2 จุด
• NEW MG ZS เบาะหลังพับเชื่อมต่อห้องสัมภาระด้านท้าย
• เบาะหลังไม่มีที่พักแขน
• NEW MG ZS ยังคงมาพร้อมระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย หรือควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน
• ตอบสนองการสั่งงาน ทั้งสั่งเปิด - ปิดซันรูฟ เปิด - ปิดกระจกข้าง หาปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
• NEW MG ZS เครื่องยนต์เดิม เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน - เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที
• ระบบส่งกำลังใหม่ เกียร์ CVT 8 สปีด
• NEW MG ZS ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
• ระบบจำกัดความเร็ว ASL
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
• ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC
10.93
• NEW MG ZS น้ำมันเต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 512 กิโลเมตร นั่ง 4 คน กระเป๋าเต็มห้องสัมภาระ
• ความเร็วเดินทาง 90 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้น-ลง ตามเขตควบคุมวินัยจราจร
• กรุงเทพฯ - อุตรดิตถ์ ระยะทาง 492.5 กิโลเมตร บนหน้าปัดเฉลี่ย 12.2 กิโลเมตรต่อลิตร
• เติมแก๊สโซฮอล์ 91 กลับเข้าไป 45.05 ลิตร (ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร) เฉลี่ยเองได้ 10.93 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 570 กิโลเมตร
11.44
• NEW MG ZS น้ำมันถังที่ 2 แก๊สโซฮอล์ 91 นั่ง 4 คนเช่นเดิม กระเป๋าเต็มห้องสัมภาระ
• อุตรดิตถ์ ร้องกวาง เข้าอำเภอเมืองน่าน ขับทางราบไปอำเภอปัว
• จากอำเภอปัว เพิ่มเป็น 5 คน รวมผู้ขับขี่ ห้องสัมภาระอัดกระเป๋าแน่นกว่าเดิม ขับขึ้นภูเขาไปบ่อเกลือ บ้านสะปัน
• ที่บ่อเกลือ ระยะทาง 417.9 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 10.9 กิโลเมตรต่อลิตร
• เติมแก๊สโซฮอล์ 91 กลับเข้าไป 36.50 ลิตร เฉลี่ยเอง 11.44 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 477 กิโลเมตร
9.10
• NEW MG ZS น้ำมันถังที่ 3 แก๊สโซฮอล์ 91 นั่ง 5 คน กระเป๋าเต็มห้องสัมภาระ
• วิ่งบนถนนลอยฟ้า 1081 ผ่านอำเภอสันติสุข ลงมาเที่ยวตัวเมืองน่าน
• เช้าวันถัดมา เหลือผู้ขับขี่ และผู้ร่วมทางอีกหนึ่งท่าน แต่กระเป๋าแน่นเช่นเดิม ย้อนกลับทางเดิม พักที่ 29 BASE
• เช้าอีกวันขับลงมาพักที่อำเภอปัว เติมน้ำมันที่ระยะทาง 370.1 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 9.6 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 60 กิโลเมตร
• เติม E20 กลับเข้าไป 40.64 ลิตร เฉลี่ยเอง 9.10 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 547 กิโลเมตร
10.46
• NEW MG ZS น้ำมันถังที่ 4 E20 นั่ง 2 คน รวมผู้ขับขี่ กระเป๋าเต็มหลังรถ ขึ้นดอยสกาด
• ลงจากดอยสกาด วิ่งทางราบจากอำเภอปัว ผ่านเมืองน่าน เดินทางกลับกรุงเทพฯ
• ใช้สปีดเกือบตลอดทางจนถึงพิษณุโลก ที่ระยะทาง 434.5 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 10.9 กิโลเมตรต่อลิตร
• เติม E20 กลับเข้าไป 41.53 ลิตร เฉลี่ยเอง 10.46 กิโลเมตรต่อลิตร
• เต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 452 กิโลเมตร
8.1
• NEW MG ZS น้ำมันถังที่ 5 E20 ใช้สมรรถนะสูงต่อเนื่องยาว ๆ จากพิษณุโลก ถึงพระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 285.7 กิโลเมตร บนหน้าปัดแสดง 8.1 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 81 กิโลเมตร
ทางราบเร้าใจกว่าเดิม
• NEW MG ZS เปลี่ยนระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นเกียร์ CVT 8 สปีด เห็นผลกับการขับขี่ทางไกล และทริปนี้ขาขึ้นไปเมืองน่าน นั่ง 4 คน ขนของเต็มหลัง
• ทางราบ เกียร์ CVT 8 สปีด อัตราประหยัดน้ำมันใกล้เคียงโฉมก่อน แต่ขับสนุกขึ้น สปีดแซงคมมากกว่าเดิม
• ช่วยลดเสียงรบกวนสู่ห้องโดยสาร แม้มีหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่
• NEW MG ZS ทางตรง 140 - 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รักษากำลังแล่นฉิวต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยเติมคันเร่งบ่อย ๆ
• ไม่ต้องกระแทกคันเร่งแรง ๆ ในลักษณะเท้าหนัก ใช้คันเร่งเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ เติมน้ำหนักแป้นคันเร่งเพียงเล็กน้อย จะรู้สึกว่าแป้นคันเร่งสู้เท้า ดันน้ำหนักแป้นคันเร่งแค่ตึง ๆ เท้า ก็สามารถแซงได้เร็ว และปราดเปรียวกว่าโฉมก่อนมาก
บนเขาผ่านฉลุย
• NEW MG ZS ขนสัมภาระแน่นเอี๊ยด Drive Tripper นั่ง 4 คน ขึ้นภูเขาจากร้องกวางถึงเมืองน่าน
• จากนั้นเพิ่มเป็น 5 คน แบกของหนักกว่าเก่า ไต่ถนนลอยฟ้า จากอำเภอปัว บ่อเกลือ ลงทางอำเภอสันติสุขสู่เมืองน่าน
• ถนนช่วงแรกขึ้นเขาจากอำเภอปัว โค้งแคบ
• แม้ NEW MG ZS ใช้เครื่องยนต์เดิม แต่เกียร์ใหม่ CVT ชุดนี้ไม่ต้องเหยียบมิด ก็ส่งความเร็วได้ชนิดที่เรียกว่าไม่หมด
• ไม่ต้องถอนแล้วกดคันเร่งใหม่ คนขับไม่ต้องหยุดหายใจ คนนั่งหลังไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องสับเกียร์ ไม่ต้องโยกมาโหมดแมนวล
• บางจังหวะ NEW MG ZS ตามรถคันหน้า พอเห็นทางตรง โค้งไม่ลับตา แม้เป็นทางชัน ยังมีพลังเหลือให้แซงขึ้นไปหาช่องว่างอย่างปลอดภัย (นั่ง 5 คน)
• อีกรอบขับ NEW MG ZS บนเส้นทางลอยฟ้าย้อนจากเมืองน่านกลับมาอำเภอปัว แต่นั่ง 2 คน ก็ยังพลิ้ว ช่วงล่างไม่โคลง ไม่มีเสียงคำรามโหยหวนจากเครื่องยนต์เมื่อเจอทางชัน
• โค้งซ้าย - ขวา ไหลขึ้น - ลงเขา ขับไม่เหนื่อย พวงมาลัยควบคุมเชื่องมือ
• เบาะคู่หน้ากว้างนั่งสบาย ใช้งานในชีวิตประจำวันลุยถนนดำได้ทุกดอย
• NEW MG ZS อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน มาพร้อมเทคโนโลยี รุ่นท็อป X+ ราคา 799,000 บาท ดึงดูดความสนใจจากทุกเซกเมนต์ของรถยนต์ในระดับราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท
• ต้องไปลองขับ ลองนั่งด้วยตัวคุณเอง ด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง บางท่านชอบแบรนด์ บางท่านชอบดีไซน์
• หากมองหาความคุ้มค่าสำหรับ SUV คันแรก คำตอบอยู่ที่ NEW MG ZS