838
คนดูทั้งหมด
ปรับโฉมกระบะพันธุ์ยักษ์ MG EXTENDER

• บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ - ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย สะท้อนทิศทางการดำเนินงานที่ผสาน 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และความคุ้มค่า (Value) สู่ยนตรกรรมคุณภาพเพื่อคนไทย

• บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 วันที่ 24 มีนาคม - 4 เมษายน เมืองทองธานี

• ไฮไลท์ของงานกับการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการของกระบะพันธุ์ยักษ์ NEW MG EXTENDER รุ่นปรับโฉมใหม่ ตามด้วยรถ SUV อย่าง MG ZS และ MG HS

• รถปลั๊กอินไฮบริด MG HS PHEV ที่มาพร้อมสีใหม่ สีเทา METAL ASH GREY

• รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งรุ่น MG EP และ MG ZS EV 

• รถแฮทช์แบ็กรุ่น MG 3 ที่มาด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

• ผู้ที่เข้าชมได้มีโอกาสสัมผัสกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมซึ่งอยู่ในรถยนต์ MG อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ระบบช่วยขับขี่ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ที่มีความเทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) 

• เทคโนโลยีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า หรือ xEV ทั้งในรูปแบบรถยนต์ Plug-in Hybrid และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV)

• นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา แม้ภาพรวมของตลาดจะถดถอย แต่ MG ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น รวมถึงเพิ่มจำนวนของโชว์รูม และศูนย์บริการครบ 150 แห่ง และมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน

• MG เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายมากที่สุดในกลุ่มรถยนต์ SUV โดยเฉพาะในกลุ่ม C-SUV และยังเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV)

• ปัจจุบันมียอดขายรถยนต์ MG สะสมรวมทั้งสิ้น 107,400 คัน

• ในส่วนของการผลิต MG ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา และได้เริ่มทยอยส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเวียดนาม ก่อนจะขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาในประเทศอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้

• นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเสริมถึงความคืบหน้าของแผนงานขยายสถานีชาร์จ ล่าสุด MG ได้ติดตั้งสถานีชาร์จที่ศูนย์บริการ MG ทั่วประเทศแล้วทั้งสิ้น 108 แห่ง และได้เปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้ว จำนวน 70 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ สามารถเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ได้แล้วทั้งสิ้น 22 แห่ง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ

• ลูกค้าสามารถใช้แอพพลิเคชั่น i-SMART ตรวจสอบเวลาการทำงาน และความพร้อมใช้งานของ MG SUPER CHARGE และยังสามารถค้นหาเพื่อทำการจอง ตลอดจนการเติมเงินและการจ่ายเงินค่าใช้บริการ และเริ่มชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้จากโทรศัพท์มือถือ

• ปัจจุบัน MG กำลังเดินหน้าสู่แผนงานในระยะที่ 2 เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จ MG SUPER CHARGE อีกกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการมีสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 สถานีชาร์จ ในทุก ๆ 150 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ในระยะยาว 

• ล่าสุด MG ประกาศค่าบริการชาร์จไฟฟ้าที่ MG SUPER CHARGE ในช่วง Off Peak (วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 22.00 - 08.00 น. และวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ทั้งวัน) อยู่ที่ 6.50 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และในช่วง On Peak (วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00 - 22.00 น.) อยู่ที่ 7.50 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง