• รอบปีที่ผ่านมา Drive Tripper เดินทางไปจังหวัดน่านบ่อยครั้ง ใช้ถนนหลัก 11 ต่อ 101 อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน เดินทางโดยรถยนต์ขึ้นดอยภูคา บ่อเกลือ และท่องเที่ยวในตัวเมืองน่าน

• เว้นช่องไว้สำหรับการเยือนอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เพื่อรอรถที่สมบุกสมบัน

• FORD RANGER RAPTOR ร่วมการผจญภัยในทริปนี้

• จุดหมายอยู่ภายในบริเวณดอยเสมอดาว นั่นคือม่อนเคียงดาว ทางเข้าเป็นถนนลูกรัง

• FORD RANGER RAPTOR ไต่ขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งเป็นช่วงใกล้เที่ยง นักท่องเที่ยวชมหมอกกลับลงไปกันหมดแล้ว จึงไม่เป็นการรบกวนการชมทิวทัศน์

 • ขากลับลงมาจากดอยเสมอดาว เลือกที่จะพา FORD RANGER RAPTOR ขึ้นเรือข้ามฟากที่หมู่บ้านประมงปากนาย ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

• ดอยเสมอดาว - หมู่บ้านประมงปากนาย ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ โดยใช้ถนนหมายเลข 1026 มีป้ายหมู่บ้านประมงปากนายตลอดทาง

 • ช่วงเย็นที่หมู่บ้านประมงปากนาย มีเพียง FORD RANGER RAPTOR ที่ครอบครองเรือข้ามฟาก ซึ่งปกติลำละสองคัน ล่องเรือประมาณ 15 นาทีก็ถึงฝั่ง เข้าเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมุ่งหน้าอำเภอน้ำปาด แล้วตัดเข้าถนนหมายเลข 11 มุ่งสู่กรุงเทพฯ

• สนุกกับการขับขี่ FORD RANGER RAPTOR ออนโรด เกาะหนึบ พลังเดินทางราวกับนั่งรถหรู นุ่มนั่งสบาย

• พอเจอทางฝุ่น FORD RANGER RAPTOR ก็แปลงสภาพเป็นมาดแกร่ง ลุยได้ทุกที่

• ต้องขอบคุณโช้คอัพของ FORD RANGER RAPTOR ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ โดย Fox Racing Shox ใช้ลูกสูบขนาด 46.6 มิลลิเมตร ทั้งคู่หน้าและหลัง

• ช่วงล่างถูกออกแบบมาให้มีระยะการให้ตัวของล้อสูงเพื่อความสามารถในการซับแรงกระแทกขณะขับออฟโรด

• แต่ด้วยระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass technology) จึงทำให้การขับขี่บนถนนทางเรียบเป็นไปอย่างราบรื่น

• ยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับ FORD RANGER RAPTOR

• FORD RANGER RAPTOR แก้มข้างรถคู่หน้าแบบใหม่ ผลิตจากวัสดุคอมโพสิท ทนต่อการบุบ และรอยขีดข่วนที่มักจะเกิดจากการใช้งานออฟโรด 

• แก้มข้างรถคู่หน้าถูกตีโป่งขยายออก เพื่อรองรับระยะยุบตัวของโช้คที่เพิ่มมากขึ้น

• FORD RANGER RAPTOR รูปลักษณ์ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ความยาว 5,398 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,180 มิลลิเมตร ความสูง 1,873 มิลลิเมตร

• ระยะช่วงล้อหน้า - หลัง กว้างขึ้นเป็น 1,710 มิลลิเมตร

• ความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเป็น 283 มิลลิเมตร

• มุมไต่ที่ 32.5 องศา มุมคร่อมที่ 24 องศา และมุมจากที่ 24 องศา

• FORD RANGER RAPTOR มีแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker

• แถบสีแดงด้านบนของพวงมาลัย ช่วยให้นักขับออฟโรดทราบถึงตำแหน่งองศาของพวงมาลัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

• สลักลายโลโก RAPTOR ลงบนขอบพวงมาลัย

• Paddle Shift ของ FORD RANGER RAPTOR ขนาดใหญ่ ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา

• FORD RANGER RAPTOR เบาะที่นั่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง

• เลือกใช้หนังกลับเป็นวัสดุของเบาะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารยึดเกาะที่นั่งได้ดียิ่งขึ้น

• บันไดข้างรถของ FORD RANGER RAPTOR ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เศษหินกระแทกกับตัวถังรถด้านหลัง

• รูที่ถูกเจาะนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบายทราย โคลน และหิมะ โดยผลิตจากอะลูมิเนียม อัลลอย เพื่อเพิ่มความคงทนโดยเฉพาะ

• FORD RANGER RAPTOR บริเวณกันชนท้ายผ่านการปรับปรุง โดยเพิ่มชุดตะขอเกี่ยวจำนวน 2 ชุด ที่รองรับการลากจูงได้ถึง 3.8 ตัน

• FORD RANGER RAPTOR เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร

• FORD RANGER RAPTOR มาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่าง ผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของ FORD PERFORMANCE ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทก

• FORD RANGER RAPTOR เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

• FORD RANGER RAPTOR มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ

• FORD RANGER RAPTOR ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ

• FORD RANGER RAPTOR ระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Steering Program) 

• เทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อ ซิงค์ 3 ระบบสั่งงานด้วยเสียง

• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) 

• ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (Trailer Sway Control) 

• ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) 

• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control)

• ระบบควบคุมการบรรทุก (Load Adaptive Control)

• FORD RANGER RAPTOR กล้องมองหลังแสดงภาพบนจอแอลซีดีขนาด 8 นิ้ว ทำงานร่วมกับสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง

• FORD RANGER RAPTOR อัตราประหยัดเชื้อเพลิงออนโรด ดีที่สุดของทริป เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ไม่บรรทุก นั่งสองคน น้ำมันดีเซลเต็มถังแสดงระยะทางวิ่ง 733 กิโลเมตร 

• นอกเมืองทางโล่งใช้ความเร็วต่อเนื่อง 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกนั้นใช้ความเร็วตามสภาพจราจร

• เติมน้ำมันที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมระยะทางขับขี่ 740 กิโลเมตร บนหน้าปัดแสดง 10.2 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 31 กิโลเมตร

• เติมดีเซลกลับเข้าไปจำนวน 68.58 ลิตร เฉลี่ย 10.79 กิโลเมตรต่อลิตร พลังเต็มถังให้ไปต่อ 773 กิโลเมตร

• แฟน ๆ รถกระบะพันธุ์แท้เคยชม FORD RANGER RAPTOR ปล่อยพลังเต็มสูบจากคลิปวิดีโอต่างประเทศ รวมทั้งการทดสอบในเมืองไทย

• มุมของ Drive Tripper แสดงให้เห็นว่า FORD RANGER RAPTOR ขับเที่ยวเมืองไทยได้เพลินมาก เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่ขับไปไหนใคร ๆ ก็หลบ (ฮา) 

• ตรงประเด็นเลยดีกว่าครับ คือระบบกันสะเทือน FORD RANGER RAPTOR ขับออนโรดยาว ๆ นั่งนุ่ม เผลอแตะ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเหตุที่วิ่งนิ่งเกินไปจนลืมดูหน้าปัด ต้องรีบถอนคันเร่งเพราะเข้าเขตจำกัดความเร็ว 

• พอเข้าโหมดออฟโรดก็ถึงไหนถึงกัน จุดนี้ขึ้นอยู่กับทักษะการขับขี่ด้วยครับ

• FORD RANGER RAPTOR ราคา 1,699,000 บาท ไม่มีกฎข้อใดที่กำหนดว่าความคุ้มค่ากับความพึงพอใจต้องอยู่คู่กัน

• การเป็นเจ้าของ FORD RANGER RAPTOR รถกระบะรูปลักษณ์บึกบึนรุ่นพิเศษ มีเหตุผลข้อเดียวกับการถือครองนาฬิกาเรือนละล้านบาท การได้เห็นซูเปอร์คาร์จอดเฉย ๆ ในโรงรถก็มีความสุข หรือแม้กระทั่งการชุบชีวิตให้รถคลาสสิก

• เหตุผลเดียว คือความหลงใหล (Passion)

เรื่อง / ภาพ : พิชัย มูลจัด

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

• Ranger Raptor ขับบนทะเลทรายมุยเน่

• NEW EVEREST ชมทะเลหมอกภูชี้ฟ้า