803
คนดูทั้งหมด
มิตซูบิชิ ปีงบประมาณ 2561

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศผลประกอบการปีงบประมาณ 2561 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา และเปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มในปีงบประมาณ 2562 ที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 มีนาคม 2563  

สรุปผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2561

• ในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายสุทธิเติบโตขึ้นร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน

• โดยมีรายได้จากการขายรวม 2.5146 ล้านล้านเยน (ประมาณ 725,000 ล้านบาท)

• มีผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 111,800 ล้านเยน (ประมาณ 32,000 ล้านบาท) จาก 98,200 ล้านเยน (ประมาณ 28,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2561 คิดเป็นอัตราผลกำไรร้อยละ 4.4

ยอดจำหน่ายรวมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลก

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายรวมจากทุกประเทศในปีงบประมาณ 2561 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,244,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า 

• สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้าถึงร้อยละ 17 เป็นจำนวนรวม 318,000 คัน จากการจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ทำเปิดตัวและจำหน่ายเป็นที่แรก รวมถึงฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม 

• ในประเทศญี่ปุ่นยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และมิตซูบิชิ เดลิกา ดีไฟฟ์ ต่างมีส่วนสนับสนุนให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นร้อยละ 7 เป็นจำนวนรวม 105,000 คัน

• ช่วงปลายปีงบประมาณ 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังได้เปิดตัวรถเคคาร์รุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ อีเค แวกอน และ มิตซูบิชิ อีเค ครอสส์

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังมียอดจำหน่ายที่เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณก่อน ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดหลัก ภูมิภาคโอเชียเนีย รวมถึงตลาดที่มีความสำคัญอย่าง อเมริกาเหนือ จีน และภูมิภาคอื่น ๆ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้เป็นไปตามการคาดการณ์ยอดจำหน่ายรวมที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีงบประมาณ 2561

การคาดการณ์ทางการเงินรวมในปีงบประมาณ 2562

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น คาดการณ์ยอดจำหน่ายทั่วโลกปีงบประมาณ 2562 ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561 ด้วยยอดหน่ายรวมที่ 1,305,000 คัน 

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น คาดการณ์แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2562 ว่าจะมีรายได้จากการขายรวมเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ด้วยมูลค่ายอดจำหน่ายรวมที่ 2.58 ล้านล้านเยน (ประมาณ 744,000 ล้านบาท)

• ยังคงมุ่งเน้นที่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน แม้อยู่ภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวนมากขึ้นก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 90,000 ล้านเยน (ประมาณ 26,000 ล้านบาท) และเป้าหมายผลกำไรสุทธิที่ 65,000 ล้านเยน (ประมาณ 19,000 ล้านบาท)