3.64K
คนดูทั้งหมด
5 จุดเด่น SUZUKI XL7 HYBRID โดนใจลูกค้า

• SUZUKI XL7 HYBRID มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ประกอบไปด้วย 5 จุดเด่น ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในปัจจุบันได้อย่างครบครัน 

1

ห้องโดยสารกว้างขวาง ปรับใช้ได้อเนกประสงค์ 

• ความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร SUZUKI XL7 HYBRID ด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าตกแต่งด้วยหนัง แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง

• ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง

• เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับอิสระแบบ 60:40 เลื่อนเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้กว้างขวาง 

• เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระแบบ 50:50

• เมื่อพับเบาะแถว 2 และ 3 ราบกับพื้นห้องโดยสาร จะเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย จาก 550 ลิตร เป็น 803 ลิตร ขนสัมภาระตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่

• SUZUKI XL7 HYBRID มาพร้อมกับการตกแต่งภายใน ดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายไม้

• มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

• หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว

• แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

• พวงมาลัยเป็นทรง D-Shape แนวสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มแบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง ปุ่มสั่งการโทรศัพท์

• เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)

2

ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เทคโนโลยี Hybrid

• SUZUKI XL7 HYBRID เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที

• ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 10Ah 12V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

• ระบบ Hybrid ของซูซูกิ มอเตอร์ ISG (Integrated Starter Generator) ถูกออกแบบมาให้เสริมแรงบิดสูงถึง 50 นิวตัน-เมตร หรือกว่า 36% ของแรงบิดเครื่องยนต์ โดยจะเข้ามาช่วยเสริมพละกำลังในช่วงของการออกตัวและเร่งแซง ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 

• ทั้งยังช่วยเสริมให้ระบบ Idling Stop ทำงานได้ดียิ่งขึ้น จึงกลายเป็นรถเอนกประสงค์ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐาน Eco Sticker)

• SUZUKI XL7 HYBRID แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 10Ah 12V ถูกติดตั้งในตำแหน่งสูง ปลอดภัยจากการขับขี่ในสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง

• มีน้ำหนักเพียง 7 กิโลกรัม ไม่ทำให้น้ำหนักของตัวรถเพิ่มขึ้นมากนัก ทั้งยังมีการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี

3

สมรรถนะดี ช่วงล่างแกร่ง ลุยได้ทุกสภาพถนน 

• SUZUKI XL7 HYBRID แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะ และความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile และใช้โครงสร้างตัวถัง TECT ซึ่งทำจากเหล็กกล้าน้ำหนักเบา แต่ให้ความแข็งแรงทนทาน

• ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง

• ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ในทุกสภาพถนน จะขับขี่ทางเรียบก็มอบความนุ่มนวล ขับง่าย ขับสบาย หรือจะลุยทางฝุ่นก็พร้อมรองรับการฝ่าอุปสรรคได้อย่างมั่นใจ

4

ทนทาน บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล 

• ความโดดเด่นของรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น คือเรื่องของความทนทานในการใช้งาน บำรุงรักษาง่าย ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายต่อการเข้าเช็คระยะตามรอบในแต่ละครั้งราคาสมเหตุสมผล

• SUZUKI XL7 HYBRID นอกจากเทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ และมอบความประหยัดให้แก่ลูกค้า ด้านการบำรุงรักษายังง่ายดาย มีค่าบำรุงรักษาในระยะยาวที่ต่ำกว่าท้องตลาดอีกด้วย

5

ราคาไม่แพง เป็นเจ้าของได้ง่าย ผ่อนสบายกับแคมเปญพิเศษ 

• SUZUKI XL7 HYBRID วางจำหน่ายในราคา 799,000 บาท หากเทียบออปชั่น และสมรรถนะของรถคันนี้ นับว่ามีความคุ้มค่า และความครบครันรุ่นหนึ่ง

• มาตรฐานความปลอดภัยมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA

• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP

• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control 

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง 

• จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

• กล้องมองภาพขณะถอยจอด เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง

• กุญแจ Immobilizer และระบบสัญญาณกันขโมย 

• แคมเปญพิเศษ SUZUKI XL7 HYBRID ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 7,888 บาท

• หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน 

• หรือเลือกขับฟรี 90 วัน 

• พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

• SUZUKI XL7 เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงเดือนเมษายน 2567 จำหน่ายรวม 8,788 คัน