• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) นั่งสองคนรวมผู้ขับขี่ น้ำหนักผู้โดยสารรวมกันประมาณ 130 กิโลกรัม พร้อมกระเป๋าสองใบใหญ่ ขับขึ้นดอยอ่างขาง
• ก่อนขับรถขึ้นดอยในช่วงฤดูหนาว ต้องตรวจเช็ครถให้เรียบร้อย อาทิ ระบบเบรก ยาง น้ำมันเครื่อง ไฟหน้า ไฟท้าย ฯลฯ นำเข้าศูนย์บริการจะสะดวกที่สุด เพราะมีหลายสิบรายการที่ต้องตรวจสอบ เสียเวลาไม่มาก แต่อุ่นใจ
• อันดับต่อมา คือประสบการณ์การขับขี่ ถึงแม้ว่าปัจจุบันถนนหนทางขึ้นดอยต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผิวราบเรียบ แต่ส่ิงสำคัญ คือต้องเข้าใจรถ การใช้เกียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนลงจากทางลาดชัน
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ขับช่วงทางไม่ชันมาก ใช้ตำแหน่งเกียร์ D แต่เพิ่มน้ำหนักคันเร่งเล็กน้อย เจอทางชันระยะไม่ยาว พอขับขึ้นแล้วทางก็เป็นทางลงเลย สามารถไหลต่อไปได้เรื่อย ๆ จนขึ้นทางชันอีก อาศัยแรงส่งไป
• เรื่องที่ระวังมากเป็นพิเศษ ทางลาดลงยาว ๆ เพื่อไม่ให้ใช้เบรกมากเกินไป โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) มีเกียร์ S และ B ให้ใช้สลับมาช่วย รวมถึงแตะเบรกบางจังหวะ หากรู้สึกว่ารถวิ่งเร็วไป อย่าปล่อยไหลเพลินจนเร็วเกินไปด้วยเกียร์ D
• รายละเอียดการพัฒนา โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) จะไม่ขอกล่าวซ้ำ กลับไปชมได้ที่กรุ๊ปเทสต์ จันทบุรี
• ดอยอ่างขางในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพื่อให้คุ้มค่าการเดินทางควรจองห้องพักล่วงหน้าให้เรียบร้อย
• Drive Tripper ขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ในเวลา 11 โมงเช้า ขับขึ้นดอยอ่างขางตามถนนหมายเลข 1178 แวะไปเรื่อย
• ประมาณ 15.00 น. ถึงจุดชมวิวซุ่ยถัง อากาศปลอดโปร่ง
• ช่วง 5 โมงเย็น นักท่องเที่ยวกลับที่พักแล้ว จึงมีโอกาสจอดโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เก็บภาพเป็นที่ระลึกยามเย็นในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
• อากาศเย็น ๆ พลบค่ำ ข้าง ๆ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เดินออกกำลัง ชมบรรยากาศท้องถิ่น
• ที่พักของ Drive Tripper เดินเท้าประมาณ 200 เมตร ก็ถึงสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คืนนี้ไม่ต้องเปิดแอร์ อากาศเย็นมาก พอตี 5 ก็ตื่นแล้ว เพราะต้องขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ไปหาทะเลหมอก
• จุดหมายแรก คือฐานปฎิบัติการบ้านนอแล ดอยอ่างขาง ขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) จากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ไม่ไกลนักก็หักเลี้ยวซ้ายขึ้นไปบ้านนอแล ตามป้ายบอกทาง
• ฟ้ายังไม่แจ้ง ก็ต้องแวะที่นี่ครับ จะเรียกโรงเตี๊ยมก็ได้ มีโจ๊ก น้ำชา ให้เติมพลังกันก่อน
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เดินทางต่อมายังฐานปฎิบัติการบ้านนอแล ดอยอ่างขาง ซึ่งเปิดให้เข้า 6 โมงเช้า เป็นไปตามคาดครับ ปลายฝนต้นหนาวก็เห็นทะเลหมอกอยู่ลิบ ๆ
• ยังไม่ยอมแพ้ ขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) จากฐานปฎิบัติการบ้านนอแล ดอยอ่างขาง ไม่ไกลให้เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านขอบด้ง จุดชมวิวอีกแห่ง เวลา 06.55 น. เหมือนว่าจะมาไม่ถูกเวลา
• สุดท้ายก็ขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ออกจากบ้านขอบด้ง กลับลงมา ผ่านโรงเตี๊ยม เจอถนนหลักก็เลี้ยวซ้ายไปยังทางที่ขึ้นมาเมื่อวานนี้ ไปฐานปฎิบัติการดอยอ่างขาง กองร้อยทหารม้าที่ 3 เป็นบริเวณกางเต็นท์ (อยู่ติดกับลานกางเต็นท์ดอยอ่างขาง ม่อนสน) ตื่นมาสามารถรับไอหมอกได้เลย
• ช่วง 07.30 น. นักท่องเที่ยวกลับไปเก็บเต็นท์ แต่หมอกยังทำหน้าที่ของมันอยู่ตรงนั้น จึงเป็นโอกาสที่โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ได้เคลื่อนตัว จัดท่าทางเก็บภาพความประทับใจ
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) กลับมายังห้องพักใกล้สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ยังทันรับประทานอาหารเช้า และหลังจากเช็คเอาท์แล้วก็กลับไปจิบกาแฟ ส่งโปสการ์ด และเก็บภาพสีสันของดอกไม้ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
• ออกจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ผ่านฐานปฎิบัติการดอยอ่างขาง กองร้อยทหารม้าที่ 3 จะกลับลงเชียงใหม่ทางฝาง เพื่อให้ครบรอบเส้นทาง แต่เจ้าหน้าที่ปิดทาง จึงต้องขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) ลงมาทางเดิม พร้อมกับสายฝนพรำกับหมอกบนขุนเขา
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เดินทางท่องเที่ยว ทางราบช่วงล่างให้ความนุ่มนวล และเกาะถนน อย่างที่เคยให้ความเห็นไว้ในกรุ๊ปเทสต์ ที่จันทบุรี
• พละกำลังขึ้นเขาพอเพียงหรือไม่ ทริปนี้น่าจะเป็นคำตอบสำหรับการเดินทางสองคน ขึ้น-ลงอ่างขางทางถนนหมายเลข 1178 แม้ขับขี่ไม่ยากนัก แต่ต้องมีสติเพราะขึ้น-ลงเขาตลอด การใช้เกียร์จึงจำเป็น โดยตำแหน่งเกียร์ B ช่วยได้มากในการลงทางชัน
• ใช้เกียร์ S ส่งขึ้นทางชันสั้น ๆ ปลอดภัยหากคุณใจเย็นพอ และเรียนรู้การทำงานของขุมพลัง 1.2 ลิตร เกียร์ CVT
• ความเห็นส่วนตัว ประทับใจช่วงล่างเป็นพิเศษ รับรู้ได้ถึงความหนึบบนโค้ง เราไม่ได้หมายถึงการสาดโค้งแบบรถสปอร์ต แต่ขับบนเขาที่คดโค้งตามความเร็วปกติใช้งานทั่วไป การหลบหลีกหลุม การเปลี่ยนเลนกระทันหัน เมื่อผ่านอุปสรรคเหล่านี้ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) มีเสถียรภาพการทรงตัวในเดินทางต่อได้ทันที โดยไม่เหวอ คอยแก้อาการปัดเป๋ของรถ
18.47
• ด้านอัตราประหยัดเชื้อเพลิง โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เต็มถังแรกจากกรุงเทพฯ แสดงระยะทางวิ่ง 513 กิโลเมตร ขับขี่ทางราบ ความเร็วทางโล่ง ๆ ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาเติมน้ำมันที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ที่ระยะทาง 586.5 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 18.3 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 55 กิโลเมตร
• เติม E20 จำนวน 31.75 ลิตร (ความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร) เฉลี่ย 18.47 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันเต็มถังให้ไปต่อ 555 กิโลเมตร
13.02
• น้ำมันถังที่ 2 ส่วนมากเป็น E20 ขับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) จากลำปาง ขึ้นดอยอ่างขาง ตามหาทะเลหมอก จากนั้นขับลงมาจากดอยอ่างขาง เติมน้ำมันที่แม่แตง ระยะทาง 411.6 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 13.4 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 48 กิโลเมตร
• เติม E20 จำนวน 31.60 ลิตร เฉลี่ยได้ 13.02 กิโลเมตรต่อลิตร เต็มถังไปต่อ 539 กิโลเมตร
15.02
• น้ำมันถังที่ 3 เป็น E20 จากแม่แตง วิ่งลิ่วเข้ากรุงเทพฯ ใช้สปีด มาเติมที่อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ที่ระยะทาง 489.4 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 14.8 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 35 กิโลเมตร
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เติม E20 จำนวน 32.57 ลิตร เฉลี่ย 15.02 กิโลเมตรต่อลิตร เต็มถังไปต่อ 540 กิโลเมตร
15.6
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เข้ากรุงเทพฯ จอดคืนที่ระยะทาง 244.8 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งอีก 278 กิโลเมตร
• ทริปนี้เป็นการขับขี่เฉพาะบุคคล นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ก่อนการตัดสินใจต้องไปลองขับ ลองนั่ง ด้วยตัวท่านเองอีกครั้ง
เรื่อง : พิชัย มูลจัด
ภาพ : พิชัย มูลจัด / TANYA
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Toyota Yaris ATIV) เครื่องยนต์รหัส 3NR-FE ขนาด 1,197 ซีซี แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i กำลังสูงสุด 86 แรงม้า PS (63 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i
• ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,100 รอบต่อนาที
• ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,600 รอบต่อนาที
• ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 3,500 รอบต่อนาที
• ความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4,100 รอบต่อนาที
TOYOTA YARIS ATIV 1.2 S CVT
• กระจังหน้าโครเมียมรมดำ พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีแดงบริเวณกระจังหน้าด้านล่าง
• ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED
• ไฟตัดหมอกหน้า
• ไฟหน้า Projector รมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดง ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ LED Light Guiding
• กระจกมองข้างสีดำเปียโนแบล็ค พร้อมไฟเลี้ยวตกแต่งด้วยแถบสีแดง
• มือจับประตูโครเมียม พร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry
• เสาอากาศแบบครีบฉลาม
• ไฟท้ายรมดำแบบ LED Light Guiding
• ไฟเบรกดวงที่ 3 และรีเฟล็กเตอร์ท้าย
• ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R15
• มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron
• หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะ MID แบบจอสี (TFT) ขนาด 4.2 นิ้ว
• พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมแถบเมทัลลิก สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
• เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต
• พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ เพื่อการเข้า-ออกที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
• มีที่เก็บของอเนกประสงค์ข้างคนขับ พร้อมหุ้มหนังบริเวณฝาปิด
• กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
• ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry ฟังก์ชั่นการควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตู
• หัวเกียร์ และฐานเกียร์ สีดำเปียโนแบล็ค
• เครื่องเล่นวิทยุ DVD/ CD/ MP3/ MP4/ WMA หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB/ HDMI/ Micro SD card ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth รองรับบริการพิเศษจาก T-Connect
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอ LCD
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push Start
• พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)
• เป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์ซับคอมแพค ซีดาน ที่มีถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control)
• กล้องมองหลัง
• กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer