19.9
• สัมผัสแรก Review โตโยต้า C-HR เส้นทางกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ เริ่มต้นกันที่ TOYOTA Driving Experience Park บางนา-ตราด กม.3
ผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บรรยายผลิตภัณฑ์ แนะนำข้อมูลทางด้านเทคนิค และอธิบายเส้นทาง จากนั้นก็เริ่มการทดสอบ
โตโยต้า C-HR รุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi ราคา 1,159,000 บาท โดย Drive Tripper ประจำหมายเลข 11 สีตัวถัง Radiant Green Metallic/Black Roof สีเขียวโดดเด่น หลังคาสีดำ นั่งคันละสองท่าน
เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE แบบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,798 ซีซี กำลังสูงสุด 98 แรงม้า PS (72 กิโลวัตต์) ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า PS (90 กิโลวัตต์)
เกียร์ E-CVT
ฟรีรัน เราทั้งคู่สลับมือกันที่วังน้อย ขับโตโยต้า C-HR ให้เป็นธรรมชาติเหมือนการขับรถใช้งานทั่วไป ช่วงเช้าพบการจราจราหนาแน่น แต่ก็ไม่ถึงกับหยุดนิ่ง ความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเบรก เร่งแซง เปลี่ยนช่องจราจรบ่อย ไม่มีสัญญานไฟแดง
หยุดพักรับประทานอาหารกลางวันที่ถนนธนะรัชต์ กม.ที่ 2 อำเภอปากช่อง สรุปตัวเลขการขับขี่ โตโยต้า C-HR รุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi ที่ระยะทาง 180.5 กิโลเมตร หน้าปัดแสดง 19.9 กิโลเมตรต่อลิตร
180.5 กิโลเมตร กับการขับแบบใช้งานจริง โตโยต้า C-HR รุ่นไฮบริด ตอบสนองฉับไว มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการออกตัว
เบาะกระชับ ท่าขับสไตล์สปอร์ต
โตโยต้าเซทช่วงล่างของ C-HR ได้นิ่งมาก ไม่นุ่มจนเกินไป การทรงตัวดี เรียกว่าขับสนุกทีเดียว
แทรกตัวหาช่องว่างอย่างคล่องแคล่ว และมีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) ช่วยในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ความเร็วทางไกล ขับต่อเนื่องขึ้น-ลง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารในช่วงเบาะคู่หน้ามีเสียงรบกวนน้อย ขณะที่ขับขี่ทั่วไปในเมืองจะสุนทรีย์มาก
ECO RUN
• หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเป็นการร่วมสนุก ECO RUN มีฝาครอบสวิทช์ระบบปรับอากาศ อุณหภูมิแอร์คงที่ 25 องศาเซลเซียส
ได้ลองใช้ระบบ T-Connect TELEMATICS (มีเฉพาะรุ่นไฮบริด) ในโตโยต้า C-HR เพื่อขอพิกัดเส้นทาง ECO RUN ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่ม OPS (Operator Service) ซึ่งมีสัญลักษณ์หูฟัง ระบบจะต่อสายไปยังเจ้าหน้าที่ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในรถยนต์ พร้อมให้บริการทุกที่ทุกเวลา ยังให้บริการจองร้านอาหารชั้นนำ ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) เป็นต้น
โตโยต้า C-HR ขับ ECO RUN ระยะทาง 103.5 กิโลเมตร กำหนดเวลา 1.30 ชั่วโมง บนเส้นทางหมายเลข 24 ทางยาว ๆ ใช้ความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ผลปรากฎว่า โตโยต้า C-HR รุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi หมายเลข 11 ทำสถิติได้ 28.1 กิโลเมตรต่อลิตร
ลงเวลา เช็คระยะกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นฟรีรันพาโตโยต้า C-HR สู่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กับระยะทางอีกประมาณ 80 กิโลเมตร คอนเฟิร์มถึงความเร็วช่วงกลาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลอยตัว ขับสมูท กำลังไม่ตก ขับขี่เพลิดเพลิน
ไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่
• ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เราก็ได้พบกับเคล็ดลับความทันสมัยที่ลงตัวในด้านสมรรถนะของโตโยต้า C-HR
ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ พัฒนาระบบระบายความร้อนในแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น รวมถึงเพิ่มตัวกรองฝุ่น
แบตเตอรี่ถูกย้ายตำแหน่งมาวางไว้ใต้เบาะหลัง ส่งผลต่อการทรงตัวที่สมดุลขึ้นของ C-HR
ชุดส่งกำลังสามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันทางวิศวกรได้ขับทดสอบบนภูเขาสูงในประเทศไทย ก็ยืนยันว่า C-HR ความร้อนไม่ขึ้นแน่นอน
TNGA
• ระบบโครงสร้างเทคโนโลยีใหม่ TNGA - Toyota New Global Architecture คือมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ลดการโคลงของตัวรถ
การออกแบบห้องโดยสาร เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้กว้างขึ้นโดยลดจุดอับสายตา
C-HR มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ที่นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนแล้วยังเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่อีกด้วย
TOYOTA SAFETY SENSE
• ระบบความปลอดภัยใหม่ซึ่งรวมเอาระบบความปลอดภัยขั้นสูงไว้ด้วยกัน อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)
ON TRACK
• ช่วงเช้าวันต่อมา ลองขับโตโยต้า C-HR ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผ่านสถานี Slalom, Cornering. Moose Test, Lane Change (ชมได้จากคลิปวิดีโอด้านบนสุด) พิสูจน์ถึงการทรงตัวหนึบแน่น พวงมาลัยแม่นยำ อีกทั้งระบบไฮบริดให้ได้เติมฟิลลิ่งสปอร์ต ทำให้ออกตัวไว ขับสนุกยิ่งขึ้น
ภาพประกอบ ON TRACK จาก Facebook / e-TOYOTA CLUB
อุปกรณ์มาตรฐาน
• C-HR รุ่นไฮบริด ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ Full LED ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินไฟหน้าแบบฮาโลเจน
• ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ทุกรุ่น โดยในรุ่นไฮบริดจะเป็นแบบ Light Guiding
• C-HR รุ่นไฮบริด ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED Sequential
• C-HR รุ่นไฮบริด ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
• ไฟท้าย C-HR รุ่นไฮบริด เป็นแบบ Full LED รมดำ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ไฟท้าย LED
• สปอยเลอร์หลัง ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ทุกรุ่น
• เสาอากาศแบบครีบฉลาม ทุกรุ่น
• C-HR รุ่นไฮบริด คิ้วขอบกระจกประตูโครเมียม คิ้วตกแต่งเสากลางเปียโนแบล็ค
• ไฟส่องสว่างที่กระจกมองข้างแบบ LED (Welcome Lamp) เฉพาะรุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi
• C-HR รุ่นไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 1.8 Mid ภายในสีทูโทน (ดำและน้ำตาล)
• C-HR รุ่นไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 1.8 Mid เบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์
• เบาะปรับแมนวล
• ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe เฉพาะรุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi
• C-HR พวงมาลัยและวัสดุตกแต่งฐานเกียร์หุ้มหนัง ทุกรุ่น
• ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (ยกเว้นรุ่นเริ่มต้น 1.8 Entry)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า ทุกรุ่น
• ระบบ Auto Brake Hold ทุกรุ่น
• ระบบนำทาง เฉพาะ C-HR รุ่นไฮบริด รุ่นท็อป HV Hi
• ระบบเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และ 6 ลำโพง ทุกรุ่น
• หน้าจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ทุกรุ่น
• กล้องมองภาพขณะถอยหลัง ทุกรุ่น
• กุญแจ Immobilizer และสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS ทุกรุ่น
• ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Brake System) ทุกรุ่น
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ทุกรุ่น
• ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ทุกรุ่น
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ทุกรุ่น
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ทุกรุ่น
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ทุกรุ่น
• C-HR ทุกรุ่น สวมยางขนาด 215/60 R17
• ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
TOYOTA C-HR 1.8 Mid (เครื่องยนต์เบนซิน)
• นอกจากรุ่นไฮบริด C-HR ยังมีทางเลือกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FBE ขนาดความจุ 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 140 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ CVT
C-HR มีจำหน่าย 4 รุ่น
• 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
• 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
• HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
• HV Hi ราคา 1,159,000 บาท
จบทริปทดลองขับ โตโยต้า C-HR เส้นทางกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ ขับขี่บนถนนจริง และในสนามแข่ง Drive Tripper ให้คำนิยามกับโตโยต้า C-HR ไว้ว่า ‘ไฮบริดใหม่ สปอร์ต ประหยัด’ คุณอาจจะเกิดคำถามในใจว่าจริงหรือ เป็นไปได้อย่างไร
อยากให้ไปลองขับด้วยตนเอง ที่ TOYOTA Driving Experience Park (TDEX) บางนา-ตราด กม.3 ขยายเวลาในการเปิดให้บริการ 08:30-21:00 น. สำรองที่นั่ง โทร. 02-396-0777
เรื่อง : พิชัย มูลจัด
ภาพ : TOYOTA / พิชัย มูลจัด