2.23K
คนดูทั้งหมด
โครงการสาทรโมเดล แก้ปัญหาจราจรอย่างยั่งยืน > ชมคลิปวิดีโอ

• • • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย พลตำรวจโท วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร รองศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

         นายชิน อาโอยามะ เจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี และนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานร่วมคณะกรรมการโครงการคมนาคมอย่างยั่งยืน 2.0 กรุงเทพมหานคร และประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวในงาน ‘โครงการสาทรโมเดลขยายสู่กรุงเทพมหานคร’ ‘สาทร โมเดล’ เพื่อการแก้ปัญหาจราจรอย่างยั่งยืน

         โครงการสาทรโมเดล ริเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2557 โดยสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกับภาคเอกชน และได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน เพื่อบรรเทาการจราจรที่ติดขัดบนถนนสาทร

มาตรการจอดแล้วจร 

• เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางสู่ถนนสาทร จากความร่วมมือของสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมห้างสรรพสินค้าไทย และบริษัท นิปปอน ปาร์คกิ้ง ดีเวลลอบเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แบ่งปันพื้นที่จอดรถ รวมถึงได้พัฒนาพื้นที่จอดรถขึ้นมาใหม่ ในทำเลที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวก ซึ่งในปัจจุบันมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการนี้ 504 คน โดยเฉพาะจำนวนของผู้ใช้จุดจอดแล้วจรกรุงธนบุรีเฉลี่ย 280 คน ต่อวัน

มาตรการรถรับส่ง 

• เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบริเวณถนนสาทร ในโครงการฯได้พัฒนาการให้บริการรถโรงเรียน (School Bus) ที่มีความปลอดภัยสูงในรูปแบบ สถานีถึงโรงเรียน (Station to School) ทั้ง 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม และ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โดยผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานตามจุดจอดที่กำหนดไว้ แล้วเดินทางต่อสู่โรงเรียนด้วยรถรับส่งที่โครงการจัดไว้

         โครงการใช้รถร่วมกัน (ทางเดียวกันมาด้วยกัน) หรือ ACP Car Sharing ซึ่งมุ่งสนับสนุนให้ผู้ปกครองที่ปกติใช้รถยนต์ส่วนตัวในการมารับส่งบุตรหลาน เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ร่วมกันเดินทางมาโรงเรียน

         ทั้งสองมาตรการเป็นการช่วยลดจำนวนรถยนต์ที่มุ่งหน้าสู่โรงเรียนในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมในโครงการทั้งสิ้น 117 คน 

         ปัจจุบันทั้งสองโรงเรียนมีจำนวนนักเรียนที่ใช้บริการรับส่งจากบ้านถึงโรงเรียนซึ่งบริหารงานโดยทางโรงเรียนเอง จำนวน 665 คนจากโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม และ 801 คน จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

มาตรการเหลื่อมเวลาทำงาน

• เพื่อกระจายปริมาณรถยนต์ที่เข้าสู่พื้นที่ถนนสาทรในชั่วโมงเร่งด่วน ด้วยความร่วมมือของบริษัทเอกชนที่มีสำนักงานในบริเวณถนนสาทร และสีลม โดยใช้ข้อมูลการเดินทางของพนักงานที่ได้จาก Linkflow Application เพื่อใช้ออกแบบวางแนวทางการใช้มาตรการเหลื่อมเวลาทำงานในแต่ละบริษัทที่เข้าร่วม ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อพนักงานคือ สามารถวางแผนการเดินทางเพื่อเข้าทำงานหรือเลิกงานได้เหมาะสม มีส่วนช่วยลดความแออัดบนท้องถนนลงได้ โดยมีพนักงานที่เข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 4,300 คน จาก 12 บริษัท

มาตรการบริหารจัดการจราจร 

1. การจัดช่องจราจรพิเศษ (Reversible Lane) ในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า โดยให้รถขาเข้าจากสะพานตากสินและจากถนนเจริญราษฎร์สามารถเข้าสู่ถนนสาทรเหนือโดยใช้ช่องทางพิเศษได้ 1 ช่องทางบนถนนสาทรใต้ทำให้สามารถระบายปริมาณรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การจัดการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ด้วยการหยุดรับส่งนักเรียนแล้วรีบเคลื่อนรถออกไป (Kiss & Go) โดยกำหนดจุดรับส่งอย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำให้ปัญหารถชะลอตัว เนื่องจากการเปลี่ยนช่องทางเพื่อรับส่งนักเรียนเบาบางลง การจราจรช่วงก่อนถึงหน้าโรงเรียนคล่องตัวขึ้น

3. การบริหารควบคุมสัญญาณไฟจราจรที่สี่แยกสาทร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สามารถรับทราบข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการกำหนดสัญญาณไฟจราจร ด้วยโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น โดยคำนวณจากปริมาณจราจรในแต่ละช่วงเวลาแบบเรียวไทม์ และระยะแถวคอยในแต่ละทิศทาง ช่วยให้สามารถกำหนดสัญญาณไฟจราจรได้อย่างเหมาะสมกับสภาพจราจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผลการดำเนินโครงการ ‘สาทรโมเดล’

• จากผลการดำเนินงานพบว่า สภาพการจราจรบนถนนสาทรเหนือขาเข้าจากบริเวณสี่แยกสาทร ถึงสี่แยกวิทยุ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าคล่องตัวมากขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยปริมาณการระบายรถเพิ่มขึ้น 422 คันต่อชั่วโมง หรือร้อยละ 12 ความยาวรถที่ติดสะสมจากสะพานตากสินไปจนถึงฝั่งธนบุรีลดลงจากปกติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ของความร่วมมือที่ทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนสนับสนุนพร้อมกัน

แผนที่นำทาง (Roadmap) จากโครงการ สาทรโมเดล

• ตลอดระยะเวลา 3 ปี โครงการสาทรโมเดลได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานราชการและเอกชน รวมถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จนได้ผลการดำเนินงานผ่านการเรียนรู้และวิเคระห์สรุปผลนำสู่แผนที่นำทาง (Roadmap) ตามมาตรการที่สำคัญ ได้แก่

1. สนับสนุนให้มีการทำแผนแม่บทการจอดแล้วจรและนำไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับการขยายแนวเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะในอนาคต เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพเป็นจุดจอดรถ การลดอุปสรรคด้านข้อกฎหมายในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ รวมถึงการสร้างรูปแบบทางธุรกิจที่เหมาะสมจากการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐฯและเอกชน เพื่อให้ผู้เดินทางเปลี่ยนมาใช้การจอดแล้วจรอย่างมากขึ้นและแพร่หลาย

2. ปริมาณการจราจรที่มากช่วงเวลาเร่งด่วนในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนหนึ่งมาจากโรงเรียนใหญ่ที่ผู้ปกครองใช้รถยนต์ส่วนตัวรับส่งบุตรหลาน สภาพปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียนจึงแตกต่างกันไปตามลักษณะการเดินทางของเด็กนักเรียน จึงจำเป็นต้องวางแนวทางที่เหมาะสมแต่ละโรงเรียน โดยเริ่มจากการสำรวจพฤติกรรมการเดินทางของนักเรียนและผู้ปกครอง วิเคราะห์เพื่อเสนอทางเลือกในการเดินทาง  เช่นโครงการรถรับส่ง หรือโครงการใช้รถร่วมกัน จากนั้นกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกับนักเรียนและผู้ปกครอง และประชาสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มผู้มีส่วนร่วม ตลอดจนปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกอันดีงามแก่เยาวชน ทั้งนี้ต้องได้รับการสนับสนุนและเข้าร่วมอย่างจริงจังจากผู้บริหารโรงเรียน อันจะเป็นการช่วยลดปริมาณรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างมีนัยสำคัญ

3. ส่งเสริมให้มีการจัดทำข้อตกลงโดยสมัครใจร่วมกันระหว่างภาครัฐฯและองค์กรหรือสมาคมธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทสมาชิกแต่ละบริษัท นำมาตรการเหลื่อมเวลาทำงานไปประยุกต์ใช้กับพนักงานอย่างทั่วถึง รวมถึงการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการเดินทางแก่พนักงาน

4. แนวทางสำหรับการบริหารจัดการจราจร ได้แก่

4.1 ขยายมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดคอขวดบนท้องถนน ไปยังถนนสายหลักอื่น ๆ พระรามสี่ เจริญกรุง สุขุมวิท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอื่น ๆ

4.2 สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปรับปรุงการบริหารสัญญาณไฟจราจร ด้วยมาตรฐานการปฏิบัติงานซึ่งได้จากการรวบรวมองค์ความรู้และเทคนิควิธีการที่เหมาะสม

4.3 การผสานความร่วมมือภาครัฐฯ-เอกชน (PPP) ในการวางแผนและใช้ประโยชน์จากตัวชี้วัดปริมาณจราจร (เซ็นเซอร์) 

4.4 จัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมวิศวกรรมจราจร เพื่อสนับสนุนงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

         จากการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก เมื่อวันที่ 9 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการของโครงการคมนาคมอย่างยั่งยืน 2.0 (Sustainable Mobility Project 2.0) สาทรโมเดล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชน สถานศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ ทำให้เกิดกระบวนการทำงานร่วมกันผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่สามารถลดความแออัดของพื้นที่ โดยรอบถนนสาทรได้เป็นอย่างดี

         รวมทั้ง ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนที่นำทางการขยายมาตรการที่ได้ดำเนินการในสาทรโมเดลไปยังพื้นที่ต่าง ๆ (Roadmap) ไปสู่การปฏิบัติ ได้แก่ การจัดการจราจร และการบริหารความต้องการการเดินทาง เพื่อขยายมาตรการที่ได้ดำเนินการในสาทรโมเดลไปยังพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในการจัดตั้งองค์การด้านการสัญจรอย่างยั่งยืน (Sustainable Mobility Institute : SMI) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนและดำเนินการตามแนวทางการขนส่งที่ยั่งยืนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป