571
คนดูทั้งหมด
โตโยต้าคว้าแชมป์ 24 ชั่วโมง นูร์เบิร์กริ่ง สามปีซ้อน

• TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ด้วยการนำรถแข่ง COROLLA ALTIS GR SPORT คว้าชัยการแข่งขันรถยนต์สุดหฤโหดรายการหนึ่งของโลก ADAC Total Energies 24h-Race Nurburgring ประเทศเยอรมนี ในรุ่น Super Production 3 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

• พิสูจน์ความยอดเยี่ยมในสมรรถนะของรถยนต์โตโยต้าตามหลักการ QDR : คุณภาพ (Quality) ความทนทาน (Durability) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) เมื่อวันที่ 26-29 พฤษภาคม 2565

• บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกรายการ ADAC TOTAL 24h-Race Nurburgring ณ ประเทศเยอรมนี เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน

• รถแข่ง Production car จากสายการผลิตในประเทศไทย ได้แก่ COROLLA ALTIS, C-HR และในปีนี้ได้ส่งรถแข่งรุ่นล่าสุด COROLLA ALTIS GR SPORT จากฝีมือคนไทย ภายใต้ทีมแข่ง TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง ด้วยการคว้าชัยชนะในรุ่น Super Production 3 สามารถรักษาตำแหน่งแชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

แชมป์การแข่งขัน

• รถแข่ง COROLLA ALTIS GR SPORT หมายเลข 120 

• นักแข่ง : เฉิน เจี้ยนหงษ์ - กรัณฑ์ ศุภพงษ์ - นาโอกิ คาวามูระ

• เข้าร่วมการแข่งขันต่อเนื่อง 119 รอบ ใช้สมรรถนะสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง รวมระยะทางการแข่งขันทั้งสิ้น 3,020 กิโลเมตร

• ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 10 : 06 : 794 นาที

รองชนะเลิศอันดับ 1

• รถแข่ง COROLLA ALTIS GR SPORT หมายเลข 119 

• นักแข่ง : สุทธิพงศ์ สมิตชาติ - ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ - ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ - มานัต กุละปาลานนท์

• เข้าร่วมการแข่งขันต่อเนื่อง 116 รอบ ใช้สมรรถนะสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง รวมระยะทางการแข่งขันทั้งสิ้น 2,944 กิโลเมตร ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 10 : 07 : 451 นาที

• การแข่งขันในสภาพอากาศดี ทัศนวิสัยเป็นใจ ไม่มีการประกาศหยุดการแข่งขันชั่วคราวในระหว่างการแข่งขันตลอด 24 ชั่วโมง

• ในรอบ Qualify Race 1 รถแข่งหมายเลข 120 เกิดอุบัติเหตุถูกรถคันอื่นชน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้าง TNGA ใน COROLLA ALTIS GR SPORT และความสามารถของทีม Service ทำให้ซ่อมรถได้ทัน และลงทำการแข่งขันต่อจนสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

• การแข่งขันในปีนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือแชมป์เก่าในรุ่น SP9 ทำให้ไม่สามารถแข่งจนจบการแข่งขันได้

• ยังมีรถแข่งอีกกว่า 40 คัน จากจำนวนทั้งสิ้น 135 คัน ที่ไม่สามารถแข่งขันจนจบรายการได้

• ด้วยความสามารถ ทักษะการขับขี่ การฝึกฝนอย่างหนัก ความพร้อมเพรียงของทีม Service ความมุ่งมั่นของทุกคนในทีม

• ที่สำคัญด้วยสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของรถแข่งจากฝีมือคนไทย ทำให้สามารถ ประสบความสำเร็จสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้เป็นปีที่ 3 สร้างความภาคภูมิใจ รวมทั้งประกาศความสำเร็จของคนไทย ในการแข่งขันระดับโลกได้อีกครั้ง