• ทดลองขับ MG EP รถยนต์ไฟฟ้า 100% ก่อนการเพิ่มฟังก์ชั่นไม่กี่สัปดาห์

• ล่าสุดปรับชื่อเป็น MG EP PLUS พร้อมเพิ่มชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

• เพิ่มระบบกรองอากาศ PM 2.5

• เพิ่มแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า

• ปรับเพิ่มอีก 10,000 บาท กับราคาจำหน่าย MG EP PLUS ที่ 998,000 บาท

• Drive Tripper รับคิวลองขับ MG EP สองวัน สตาร์ทออกจาก MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ 

• สถานะพลังไฟฟ้าโชว์บนหน้าปัด 99% ระยะทางขับขี่ 320 กิโลเมตร

• MG EP มุ่งหน้าถนนพระราม 2 ผ่านการจราจรหนาแน่น ลองสปีดทางโล่ง ๆ แตะ 181 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.8 วินาที

• ความโดดเด่นของพลังไฟฟ้า ไม่ต้องรอรอบ พลังมอเตอร์ไฟฟ้า 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร จะโยกซ้าย-ขวา เร่งแซงหาพื้นที่ปลอดภัยก็สั่งได้ดั่งใจ

• MG EP ระบบแสดงลมยางที่หน้าปัด เป็นประโยชน์มากสำหรับรถสเตชั่น แวกอน ที่ต้องบรรทุกน้ำหนัก ทั้งสัมภาระ และผู้โดยสาร 

• การทดลองขับครั้งนี้ไม่ได้บรรทุก สัมผัสได้ถึงช่วงล่างที่มอบความนุ่มนวล นั่งสบายจริง 

• โดยเฉพาะเบาะหนังที่ดูอวบ ๆ แต่พอนั่งขับแล้วเหมือนดูดตัวให้แนบชิดติดเบาะ รับกับสรีระ แม้เบาะปรับแมนวลก็ตาม

• MG EP เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง

• MG ลงทุนขยายสถานี MG Super Charge (ตู้สีแดง) ปัจจุบันมีอยู่กว่า 119 แห่ง และมีแผนขยายเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่งในเร็ว ๆ นี้

• พลังไฟฟ้ายังไม่หมด แวะให้เห็นภาพ MG Super Charge ที่โชว์รูม MG บริษัท เอ็มจีรุ่งเจริญ สาขามหาชัย อยู่ข้าง ๆ เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย

• MG EP ติดตั้งหัวชาร์จแบบ Type II สำหรับการชาร์จแบบ AC Charge

• หัวชาร์จแบบ CCS สำหรับการชาร์จไฟเร็ว หรือ DC Charge

• ทำให้สามารถไปชาร์จไฟฟ้าที่สถานีบริการอื่น ๆ นอกจาก MG Super Charge ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์

• MG EP ขับขี่เพื่อให้ได้ระยะทางทดสอบ มาจอดชาร์จไฟฟ้าที่แยกวังมะนาว ในปั๊มบางจาก PEA Volta

• มีร้านกาแฟให้นั่งคอย นั่งพิมพ์งานระหว่างรอ

• ชาร์จไฟฟ้าได้เร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับการจ่ายกระแสไฟฟ้าของแต่ละสถานีด้วย Drive Tripper ต้องกดหยุดการชาร์จไฟฟ้า เพราะเสร็จธุระพอดี

• หยุดที่เวลา 1 ชั่วโมง 45.06 นาที จำนวนหน่วย 11.895 kWh ค่าไฟฟ้า 89.79 บาท

• ตอนมาจอดชาร์จพลังไฟฟ้าเหลือ 62% วิ่งได้อีก 198 กิโลเมตร

• MG EP หลังชาร์จพลังไฟฟ้าเพิ่มเป็น 85% เพิ่มระยะทางขับขี่เป็น 274 กิโลเมตร

• ขับลัดเลาะไปอัมพวา กลับมาคืนที่ MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ รวมระยะทางทดลองขับ 279.3 กิโลเมตร พลังไฟฟ้าเหลือ 28% ขับต่อได้อีก 81 กิโลเมตร

• MG EP รถยนต์ไฟฟ้า 100% ใช้งานได้จริง ขับได้ทุกวัน จะขนของ หรือทำกิจกรรมทั้งครอบครัว

• ที่สำคัญ มีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าเป็นของตัวเอง อำนวยสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าอย่างง่ายที่สุด

• MG EP พลังงานไฟฟ้า 100% เมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทาง 380 กิโลเมตร

• MG EP ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟฟ้า เมื่อชาร์จผ่าน MG HOME CHARGER จาก 0%-100% ราคาประมาณ 200 บาท ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

• ค่าบำรุงรักษาตามระยะทางตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมค่าแรงทั้งสิ้น ไม่เกิน 8,000 บาท

• รับประกันแบตเตอรี่ นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

• ในกรณีจำเป็นต้องซ่อมบำรุงรักษาแบตเตอรี่ สามารถถอด เปลี่ยนเฉพาะ MODULE ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด จึงช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาในอนาคต

• MG EP เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% อเนกประสงค์สไตล์รถสเตชั่น แวกอน

• เปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้าที่กุญแจ

• ล้ออัลลอย 16 นิ้ว

• เบาะหลังพับเพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระ

• MG EP หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล (Digital Multi-Function Display) ขนาด 7 นิ้ว

• หน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

• MG EP ชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) ด้วย KERS Mode (Kinetic Energy Recovery System) เลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

• รูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Normal Eco Sport

• MG EP ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด - ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ

• MG EP ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design

• ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 

• MG EP ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System) 

• ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution)

• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) 

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 

• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า

• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer 

• กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง

• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) 

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)

• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)

คลิปทดสอบรถยนต์ MG