• ครั้งแรกที่ได้เห็น Mercedes-Benz GLB สัมผัสได้ถึงการคืนสู่ยุคเรโทร ภายนอกออกแบบทรงกล่องคลาสสิก ขนาดกะทัดรัด จุดประสงค์เพื่อมุ่งเน้นความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร
• Mercedes-Benz GLB เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง
• ท่าทางการนั่งเบาะแถวที่ 3 สำหรับ Drive Tripper ที่ร่างท้วม ๆ ความสูง 170 เซนติเมตร
• ระหว่างเบาะแถวที่ 3 มีช่องวางแก้วน้ำ
• ด้านข้างเบาะแถวที่ 3 ทั้งสองฝั่งมีช่องวางของ และช่อง USB ซึ่งใน Mercedes-Benz เป็นหัวเสียบชาร์จไฟขนาดเล็กแบบ Type C
• เบาะแถวที่ 3 ของ Mercedes-Benz GLB พับราบแล้วเชื่อมต่อกับเบาะแถวที่ 2
• ใต้พื้นห้องสัมภาระยังออกแบบเป็นที่เก็บแผ่นปิดสัมภาระท้ายรถ และอุปกรณ์ซ่อมแซมยางฉุกเฉิน
• Mercedes-Benz GLB สะดวกสบายยิ่งขึ้น ประตูท้ายเปิด - ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
• Mercedes-Benz GLB เบาะแถวที่ 2 ไม่มีแอร์แยกส่วน แต่มีช่อง USB และช่องวางของ
• เบาะแถวที่ 2 เลื่อนหน้า-หลัง และปรับเอนได้
• ระหว่างเบาะมีพนักพิง และช่องวางแก้วน้ำพับเก็บได้
• Mercedes-Benz GLB กันชนด้านท้ายตกแต่งโครเมียม พร้อมปลายท่อคู่
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมไฟ daytime
• ความอเนกประสงค์เป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับ SUV ไม่ว่าจะเป็นการพับเบาะ พื้นที่วางขากว้าง นั่งโดยสารสบาย
• จุดเด่นภายในของ Mercedes-Benz GLB อยู่ที่ความหรูหราตรงส่วนหน้าของห้องโดยสาร
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive หน้าจอสองจอเชื่อมต่อกัน ขนาด 10.25 นิ้ว
• พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อม Paddle Shift
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive คอพวงมาลัยตกแต่งโครเมียม
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ด้านหน้าเบาะผู้โดยสารตกแต่งเป็นแท่งโครเมียม และมีพื้นที่ด้านบน แต่ไม่เหมาะวางของ เพราะเป็นวัสดุดำเงา เกิดริ้วรอยได้ง่าย
• แท่งโครเมียมยังตกแต่งที่ขอบคอนโซลเกียร์ และแผงประตู
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO
• เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ระบบควบคุม และสั่งงานด้วย Touchpad
• ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 สี
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ไฟท้าย และไฟเลี้ยวท้ายแบบ LED
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
• ยางขนาด 235/55 R18
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive แน่นอนว่าติดตั้งระบบความปลอดภัยชั้นสูงตามมาตรฐานยุโรป
• ด้วยราคา 2,899,000 บาท สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ถูกมองข้ามไปในสมรภูมิ SUV เมืองไทย
• มีกล้องมองขณะถอยหลัง พร้อมเซ็นเซอร์เตือนที่กันชนหน้า - หลัง แต่ไม่มีกล้องมองรอบคัน
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ไม่มีระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
• ไม่มี Blind Spot Monitor เตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง
• แต่มีระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
• นอกจากแบรนด์ Mercedes-Benz อันแข็งแกร่ง ยังมีไฮไลท์เทคโนโลยีขุมพลังขนาดเล็ก แต่ขับเคลื่อนทรงพลัง
• GLB 200 Progressive เฉียบขาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1,332 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน - เมตร ที่ 1,620 - 4,000 รอบต่อนาที
• เกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ทรงกล่องสี่เหลี่ยม ทว่านั่งขับแล้วเหมือนไม่ใช่ SUV
• ออกตัวเร็ว ทั้งการเร่งแซง เปลี่ยนเลนฉับพลัน (แบบกระแทกคันเร่งแล้วไม่หงายหลัง) ทะยานไว แต่การทรงตัวนิ่ง ราวกับขับรถเก๋งสปอร์ต
• เปลี่ยนเกียร์สมูท ไร้รอยสะดุด
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ช่วงล่างนุ่ม แต่ไม่โยน
• นั่งขับสบายมาก ๆ วิ่งยาว ๆ ราวกับนั่งเฟิร์สคลาส ตัวถังไม่กระเด้งกระดอนเลย
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ขับขี่เส้นทางกรุงเทพฯ - ปราณบุรี - สามร้อยยอด - กรุงเทพฯ ระยะทาง 602 กิโลเมตร
• บนหน้าปัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 7.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 13.15 กิโลเมตรต่อลิตร
• Mercedes-Benz GLB 200 Progressive จะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคุณ
• แต่สิ่งห้ามพลาด คือ ‘ต้องลองขับ’