• GLA 200 Urban ดีไซน์เฉี่ยว ลู่ลม และมองได้นาน ไม่เบื่อ สวมยางขนาด 235 / 50 R18 ส่งผลให้ลงตัวยิ่งขึ้น
• ไฟหน้าแบบ LED High Performance
• ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในกรอบไฟหน้า
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)
• ไฟตัดหมอกหน้า
• GLA 200 Urban ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียมสองท่อ
• ระบบเปิด - ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า
• GLA 200 Urban โดยส่วนตัว Drive Tripper ชอบเบาะผู้ขับขี่ เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO กระชับสรีระ ทัศนวิสัยชัดเจน และมีบันทึกความจำเบาะนั่ง
• GLA 200 Urban คันเกียร์อยู่ที่ด้านขวาหลังพวงมาลัย
• ฟังก์ชัน ECO start /stop
• ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
• GLA 200 Urban เครื่องยนต์เบนซิน 1,595 ซีซี 4 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลัง 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตัน - เมตร ที่ 1,250 - 4,000 รอบต่อนาที
• เกียร์ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
• อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.1 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• GLA 200 Urban สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 โหมด Comfort Sport Eco และ Individual โดยกดที่ปุ่ม DYNAMIC SELECT
• Drive Tripper ลองขับ GLA 200 Urban ในเมืองเป็นหลัก แล้วเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ ไป - กลับ กรุงเทพฯ - บางแสน ความเร็วทางโล่ง ๆ 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• อย่างที่กล่าวข้างต้น GLA 200 Urban นอกจากความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอก และเบาะนั่ง ยังสร้างความประทับใจด้านการขับขี่ แม้ขุมพลังมีขนาดเล็ก แต่พ่วงเทอร์โบ ส่งผลให้สปีดจัดจ้านมาก ผสานกับเสถียรภาพการทรงตัวที่มั่นคงทุกย่านความเร็ว
• GLA 200 Urban น้ำมันเบนซินเต็มถัง ขับขี่ระยะทาง 472 กิโลเมตร บนหน้าปัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 8.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 12.04 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 59 กิโลเมตร
• GLA อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมวด SUV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
• GLA 200 Urban ยกสูง แต่งหรู ใช้งานในเมืองหรือเดินทางต่างจังหวัดก็มอบความคล่องตัวอย่างมีสไตล์
• ราคา 2,175,000 บาท