• OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ระดับพรีเมียม ฉลองครบรอบ 1 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมประกาศถึงผลตอบรับอันน่าประทับใจของ JAECOO 5 EV ที่สามารถทำยอดจองได้กว่า 5,000 คันในเดือนสิงหาคม 2568
• ภายในงาน ผู้บริหารได้ประกาศวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้น 3 พันธกิจหลักเพื่อตอบสนองตลาดไทย ได้แก่ การพัฒนาและผลิตยานยนต์คุณภาพสูงที่ตรงความต้องการของผู้บริโภค
• การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโรงงานผลิตภายในประเทศ
• การเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
• การลงทุนในประเทศไทย บริษัทฯ ได้จัดตั้งโรงงานประกอบรถ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค พร้อมวางแผนขยายกำลังการผลิตในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
• โรงงานแห่งนี้จะเป็น Hub of NEV (New Energy Vehicle) เริ่มจาก JAECOO 6 EV และเพื่อการตอบสนองความต้องการของตลาดได้มีการวางแผนผลิต OMODA C5 EV และ JAECOO 5 EV ภายในปี 2568 นอกจากนั้นยังวางแผนในการตั้ง Training Center + R&D ภายในปี 2570
• ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ปัจจุบันมีจำนวน 60 แห่ง และตั้งเป้า 90 แห่งภายในปี 2568
• เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า OMODA & JAECOO ได้ยกระดับมาตรฐานการบริการหลังการขายภายใต้ชื่อ “OJ O-Jai” (โอเจ โอใจ) ครอบคลุมทุกความต้องการ เริ่มจากศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านช่องทางโทรศัพท์หมายเลข 02 020 8888
• บริการรถสำรอง (Courtesy Car) สำหรับกรณีที่รถมีปัญหาที่เกิดจากระบบ
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (Roadside Assistance) ฟรีในระยะทาง 200 กิโลเมตร (ขยายระยะจากเดิม 100 กิโลเมตร) ด้วยมาตรฐานการเข้าถึงภายใน 30 นาทีในเขตกรุงเทพฯ และ 45 นาทีในต่างจังหวัด
• บริการ Mobile Service ที่พร้อมให้บริการถึงที่สำหรับงานซ่อมบำรุงเบื้องต้น และภายในปีหน้าจะเพิ่มบริการรับ-ส่งรถ (Pick-Up & Delivery) สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทาง โดยทั้งสองบริการนี้จำกัดการใช้งาน 2 ครั้งต่อปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด