1.34K
คนดูทั้งหมด
นิสสันแสดงวิสัยทัศน์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า

• งาน Blognone Tomorrow จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ไบเทค บางนา นิสสันได้นำเสนอความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมพลังงานขับเคลื่อน Nissan Intelligent Power นวัตกรรมการขับขี่ Intelligent Driving และนวัตกรรมการบูรณาการของยานยนต์สู่สังคม Intelligent Integration ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันในการเปลี่ยนรูปแบบของการขับขี่ และการใช้ชีวิตในอนาคต

• มร. วินเซนต์ ไวจ์เนน รองประธานอาวุโส นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย (Vincent Wijnen, senior vice president for Nissan Asia and Oceania) กล่าวว่า นิสสันมีความเข้าใจในกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลที่ต้องการการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่หรือขณะเป็นผู้โดยสารในรถ

• ปี 2020 ผู้ซื้อรถใหม่ 40% จะเป็นคนยุคมิลเลนเนียลที่คุ้นเคยกับโลกดิจิตอล ต้องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง

• รถยนต์จะเป็นมากกว่ายานพาหนะที่ช่วยให้เราย้ายจากจุด A ไปยังจุด B รถยนต์จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์พวกเขา นิสสันมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีความเพลิดเพลิน ปลอดภัย และยั่งยืน ผ่านแนวคิด Nissan Intelligent Mobility ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

• จากการศึกษาของนิสสันร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาอย่าง Frost & Sullivan พบว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่า 40% เปิดใจพร้อมซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันถัดไป

• นิสสัน ลีฟ (NISSAN LEAF) ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกจะเปิดตัวในประเทศไทยภายในปีงบประมาณ 2561 ของบริษัทฯ นับเป็นผู้นำในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีส่วนสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านขับเคลื่อนและสิ่งแวดล้อม

• มร. ไวจ์เนน ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ของนิสสันให้ประสบการณ์การขับขี่แบบเดียวกับรถไฟฟ้าแต่ไม่ต้องใช้การชาร์จไฟด้วยการเสียบปลั๊กกับตัวรถ อี-พาวเวอร์จะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กผลิตไฟเพื่อชาร์จสู่แบตเตอรี่แทน

• ในการอภิปรายเกี่ยวกับการขับขี่แบบอัตโนมัติ มร. ไวจ์เนน ได้ยกประเด็นผู้บริโภคในอนาคตจะใช้เวลาในการติดต่อกับเพื่อนหรือเข้าสังคมออนไลน์มากกว่าให้ความสนใจกับการจราจรติดขัด เทคโนโลยี ProPILOT ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราได้รับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยีของนิสสันชนิดนี้ ช่วยให้รถยนต์สามารถขับขี่อัตโนมัติในระหว่างขับขี่ในช่องจราจรเดียวบนทางหลวง (single-lane highway driving) โดยจะทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย และช่วยลดภาระของคนขับในขณะที่มีการจราจรหนาแน่นหรือเดินทางเป็นเวลานาน

• มร. ไวจ์เนน ยังได้แสดงให้เห็นถึงก้าวต่อไปของรถยนต์อย่างเทคโนโลยี Brain to Vehicle ของนิสสันซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligent (AI) แบบแรกของโลกที่ช่วยให้สมองมนุษย์สามารถโต้ตอบกับยานพาหนะได้ โดยเทคโนโลยีนี้กำลังได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบอัตโนมัติ และถูกนำเสนอที่งาน Consumer Electronics Show ในลาสเวกัสเมื่อต้นปีนี้