8.05K
คนดูทั้งหมด
NEW JAZZ RS > ชมคลิปวิดีโอ

• • • การเดินทางตอนเช้าในชั่วโมงเร่งด่วนของวันธรรมดา คงนึกภาพบนท้องถนนในกรุงเทพมหานครออกนะครับว่ารถยนต์แน่นขนัดเพียงใด นอกจากรู้จักทางลัด ทางด่วน แน่นอนว่าการซอกแซก การลัดเลาะนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง

         เราไม่ปฎิเสธรถยนต์ขนาดกลาง รถอเนกประสงค์ที่มอบความกว้างขวางสะดวกสบาย แต่หากการใช้ชีวิตในเมืองบางครั้งเราก็ต้องการความคล่องตัวมากสักหน่อยสำหรับการผจญภัยในป่าคอนกรีต

         เช้าวันนี้ก็เช่นกันกับบรรยากาศที่คุ้นชินในเมืองหลวง ฝนโปรยปรายบางเบา Drive Tripper (ไดร์ฟ ทริปเปอร์) ร่วม One Day Trip กับฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 โดยใช้เส้นทางกรุงเทพฯ และปริมณฑล

         เริ่มต้นที่จุดนัดหมาย Maggio Coffee ร้านกาแฟสไตล์คลาสสิก ถ้ามาด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอุดมสุข เดินย้อนกลับมาก่อนถึงซอยสุขุมวิท 101/2

         หลังจากแนะนำฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 วันนี้จะลองขับรุ่นแจ๊ซ RS+ ซึ่งเป็นรุ่นท็อป สนุกสนานกับการโลดแล่นในเมืองยามเช้า 

         Drive Tripper (ไดร์ฟ ทริปเปอร์) ประจำการณ์ที่ฮอนด้า แจ๊ซ RS+ คันสีขาว นั่งสามคนรวมผู้ขับขี่ พอขึ้นทางด่วนสุขุมวิท 66/1 ชะลอช้าตั้งแต่ด่านจ่ายค่าทางด่วน แต่ก็ค่อย ๆ ไหลไปได้

         ขับมุ่งหน้าไปแจ้งวัฒนะ แล้วเบี่ยงซ้ายเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัช วงแหวนรอบนอก ถนนโล่งมาก ขับไปจนสุดทางแล้ววนไปทางบางใหญ่ เพื่อแวะที่ Tanwa Design & Food Project 

         เรามาทำอะไรที่ Tanwa Design & Food Project ถ้าไม่ได้นั่งขับรถ เราจะก้มหน้าคุยกับสมาร์ทโฟน นี่คือการละลายพฤติกรรมของชาวโซเชียลได้หลายอึดลมหายใจ เพราะพี่ ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนต่างนั่งทำ D.I.Y. กันอย่างเอาเป็นเอาตาย (ฮา) กับที่แขวนอุปกรณ์เครื่องใช้ที่สามารถแขวนไว้เบาะหลังรถยนต์

         จุดหมายต่อไป ขับมาทางถนนราชพฤกษ์ เข้าถนนกรุงธนบุรี ตลอดทางมีรถมากพอควร ต้องใช้ทั้งการเร่งแซง การหาช่องว่างบนท้องถนน พอถึงโรงพยาบาลตากสินให้เลี้ยวขวา แล้วกลับรถเพื่อเข้าไปไปยัง The Jam Factory เพื่อรับประทานอาหารกลางวันในบรรยากาศเรโทรแนวอาร์ต 

         ความท้าทายยังไม่จบ เพราะต้องขับข้ามสะพานสาทร ซึ่งรถติดมากแม้จะเป็นช่วงบ่าย จากนั้นก็ขึ้นทางด่วนมาลงกล้วยน้ำไท ฝ่าความหนาแน่นเข้าซอยเอกมัย 12 กับจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ Nikko Cafe ดื่มกาแฟ ขนมอร่อย ๆ

         โดย Drive Tripper (ไดร์ฟ ทริปเปอร์) เลือกเมนูวาฟเฟิลชาเขียว เสิร์ฟพร้อมไอศรีม หวานฉ่ำใจ

         ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังฮอนด้า อุดมสุข รวมระยะทางทริปนี้ 108.1 กิโลเมตร

         ฮอนด้า แจ๊ซ RS+ ยังคงรักษามาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็กที่มอบความคล่องตัวในเมือง ขับง่าย ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด

         ฮอนด้า แจ๊ซ RS+ ติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI

         ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส

         ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ One Push Ignition System 

         ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key System

         ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

         สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 ทุกรุ่นจำหน่ายให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control (G-CON) ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-Lock Brake System-ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)

         ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist-VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist-HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal-ESS)

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 มีเทคโนโลยีความปลอดภัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS (ทุกรุ่น) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags (เฉพาะรุ่น RS+) และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags (เฉพาะรุ่น RS+)

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 มีกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (เฉพาะรุ่น V+, RS และ RS+) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน 

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่งอัลตรา ซีท ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด

         Utility Mode : พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังได้มากถึง 906 ลิตร

         Long Mode : พับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาวได้ถึง 2,480 มิลลิเมตร

         Tall Mode : พับเบาะด้านหลังขึ้น ขยายเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูงได้ถึง 1,280 มิลลิเมตร

         Refresh Mode : พับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น 

         RS+ ราคา 754,000 บาท

         RS ราคา 739,000 บาท

         V+ ราคา 694,000 บาท

         V ราคา 654,000 บาท

         S CVT ราคา 594,000 บาท

         S MT ราคา 555,000 บาท

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีขาวทาฟเฟต้า สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีใหม่ คือ สีส้มฟีนิกซ์ (มุก) 

         ฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 ใช้งานอเนกประสงค์ทั้งตะลุยในเมือง หรือพับเบาะขนอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงออพชั่นครบถ้วนทั้งความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัย

         ทว่าดาวเด่นของฮอนด้า แจ๊ซ ปรับโฉมใหม่ ปี 2017 จะเป็นรุ่น RS และ RS+ โปรยเสน่ห์โดยเติมความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดตกแต่งจากโรงงาน มองไปในอนาคตก็อาจจะเป็นโฉมคลาสสิกรุ่นหนึ่งที่ต้องตามหา เพราะวันนี้ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นพี่หลายต่อหลายรุ่นยังส่งต่อมือถึงมือ เป็นพลังเล็ก ๆ ที่มีผลต่อการขับเคลื่อนชีวิตในเมืองใหญ่

เรื่อง : พิชัย มูลจัด

ภาพ : HONDA

NEW JAZZ RS

• กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS

• ไฟหน้า LED 

• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light - DRL) แบบ LED

• กันชนหน้า-หลัง ลายคาร์บอน ดีไซน์สปอร์ต

• ล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ต 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/55 R16

• สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่

• กระจกมองข้างสีดำ

• เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีส้ม

• หน้าจอเครื่องเสียงใหม่