• • • มินิ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์มินิรุ่นปรับโฉมใหม่ 4 รุ่น คือ มินิ แฮทช์ 3 ประตู มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล เปิดประทุน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู

         โคมไฟหน้าแบบฮาโลเจนในรุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี ที่เน้นรายละเอียดด้วยพาเนลสีดำด้านในโคมไฟ

         ปรับโฉมไฟหน้าแบบวงแหวนเต็มวงในรุ่นคูเปอร์ เอส ให้ความสว่างมากขึ้น ไฟหน้า LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชันไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มขณะที่ทำการเปิดไฟเลี้ยว

         เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Adaptive LED Headlights ในรุ่น จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ช่วยปรับความสว่างของไฟหน้าแบบอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง และปรับองศาไฟขณะเข้าโค้ง

         เทคโนโลยี Matrix light เปิด-ปิดระบบไฟส่องสว่างโดยอัตโนมัติ เมื่อกล้องในรถยนต์ตรวจจับได้ว่ามีรถยนต์คันอื่นสวนมา

         ไฟท้ายใหม่ ไฟ LED ลายธงยูเนียน แจ็ค ในรุ่นคูเปอร์ เอส และจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ โดยไฟเบรกจะใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง

         ไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทะแยง เมื่อไฟหน้าเปิดอยู่

         ตราสัญลักษณ์ MINI แบบใหม่ ยังคงดีไซน์ความเป็นมินิมอลในสไตล์มินิ แต่ให้ความสบายตามากขึ้นด้วยการออกแบบสองมิติ

         โลโก้ใหม่นี้จะอยู่ที่ 4 ตำแหน่งด้วยกัน คือบริเวณฝากระโปรงหน้ารถ ฝากระโปรงท้ายรถ บนพวงมาลัย และบนกุญแจรีโมท

         ปรับปรุงการตกแต่งภายใน เพิ่มทางเลือกให้กับ มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล มีการเพิ่มตัวเลือกของสีเบาะที่นั่งและห้องโดยสาร ได้แก่ Leather Chester, Leather Malt Brown, Leather Cross Punch Carbon Black และล่าสุดกับ Leather Lounge Satellite Grey

         การปรับโฉมรอบนี้ เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นจะเพิ่มแรงดันสูงสุดในการฉีดน้ำมันจาก 200 เป็น 350 บาร์ ควบคู่ไปกับใบพัดเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูง รวมถึงมีการปรับแรงดันหัวฉีดน้ำมันทำให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

         ขณะที่ฝาครอบเครื่องยนต์นำวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) มาใช้เป็นครั้งแรก จึงทำให้มีน้ำหนักเบาลง

         มินิ แฮทช์ มาพร้อมกับขุมพลังเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo โดยมีให้เลือกสรรทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ในรุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี

         เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ในรุ่นคูเปอร์ เอส ที่ให้พละกำลังได้สูงสุดถึง 192 แรงม้า ควบคู่กับแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร

         ระบบส่งกำลังได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยคันเกียร์ใหม่ในระบบไฟฟ้า โดยในรุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ เอส จะมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด คลัตช์คู่ (Double Clutch Transmission) ที่มอบจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและไหลลื่นยิ่งขึ้น

         รุ่นจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

         พวงมาลัยรุ่นใหม่จะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน

         มินิทุกรุ่นยังมาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัล พร้อมระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว หรือ 8.8 นิ้ว ที่มีเทคโนโลยีไร้สายแบบ Bluetooth รวมถึงเทคโนโลยี MINI Connected ที่จะเชื่อมต่อฟังก์ชั่นต่าง ๆ บนรถยนต์กับสมาร์ทโฟน

         ชุดอุปกรณ์เสริม MINI Excitement มาพร้อมกับระบบ MINI Logo Projection ที่สร้างเอกลักษณ์สะดุดตาด้วยการฉายโลโก้มินิลงบนพื้นนอกตัวรถบริเวณฝั่งคนขับเมื่อเปิดหรือปิดประตูรถ

         รุ่นจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ มินิยังนำแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging) มาติดตั้งไว้ยังบริเวณช่องในที่วางแขนกึ่งกลางตัวรถ และติดตั้งพอร์ต USB เพิ่มเติมที่คอนโซลหน้ารถได้อีกด้วย

         ระบบช่วงล่าง ชุดแต่ง จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และขุมพลังจากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 231 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6.1 วินาที สำหรับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู