• เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์

• เปิดตัวครั้งแรกกับ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ ตัวถังสีทูโทน (two-tone paint - obsidian black / high-tech silver) ราคาจำหน่าย 11,200,000 บาท

• ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตแบบ Local Production ในรุ่นตัวถังสีทูโทน

• ชูเอกลักษณ์ความเป็นที่สุดจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ Maybach ภายใต้แนวคิด The very best of the very best

• Mercedes-Maybach S 580 e เครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500-6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที

• ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร

• เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร 

• Mercedes-Maybach S 580 e ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

• Mercedes-Maybach S 580 e อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 5.7 วินาที

• Mercedes-Maybach S 580 e ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูงแบบ Lithium-ion ขนาด 28.6 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

• รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลา 30 นาที

• การชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมง 30 นาที

• Mercedes-Maybach S 580 e กระจังหน้าโครเมียมแบบ Radiator grille และตราสัญลักษณ์ Maybach

• กระจกแบบ laminated glass ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟาเรด และเสียงสะท้อนจากภายนอก

• Mercedes-Maybach S 580 e ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT

• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus

• Mercedes-Maybach S 580 e ระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System)

• ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light)

• Mercedes-Maybach S 580 e ไฟท้ายดีไซน์ใหม่พิเศษแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fibre-optic

• ช่วงล่างมีการติดตั้งล้อ MAYBACH แบบ forge wheels ขนาด 20 นิ้ว

• Mercedes-Maybach S 580 e ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) เพื่อช่วงล่างที่นุ่มนวล สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ความเร็ว และการบรรทุกสัมภาระได้อย่างอัตโนมัติ

• Mercedes-Maybach S 580 e แผงคอนโซลกลางแบบ black crystal-look finish

• Mercedes-Maybach S 580 e หน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง OLED ขนาด 12.8 นิ้ว

• Mercedes-Maybach S 580 e หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ

• Mercedes-Maybach S 580 e ติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package)

• ระบบฟอกอากาศแบบ HEPA filter

• ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM 2.5

• Mercedes-Maybach S 580 e พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

• Mercedes-Maybach S 580 e เบาะนั่งดีไซน์หรูหราหุ้มหนัง Exclusive Nappa ที่ตกแต่งแบบ diamond design

• Mercedes-Maybach S 580 e ตกแต่งบริเวณโครงหลังคาอย่างปราณีตด้วย DINAMICA microfibre คุณภาพสูง

• Mercedes-Maybach S 580 e ระบบนั่งด้านหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันการนวด

• ติดตั้งระบบความบันเทิง และการสื่อสารมาอย่างล้ำสมัย ด้วยระบบ MBUX Interior Assistant อันชาญฉลาดเพื่อผู้โดยสารด้านหลัง

• Mercedes-Maybach S 580 e ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ที่เชื่อมต่อ music streaming service

• ระบบแผนที่นำทาง และระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information

• ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system 

• Ambient lighting ระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารกว่า 64 เฉดสี รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สี twinkle-star และสี rose gold ที่มีเฉพาะ Mercedes-Maybach

• ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

• ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance package

• ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน 

• ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย และเตือนเมื่อปล่อยมือ 

• ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist 

• ระบบช่วยจอด Active Parking Assist with PARKTRONIC พร้อมกล้อง 360 องศา ที่จะช่วยนำรถเข้าจอดได้อย่างง่ายดายผ่านการส่งสัญญาณเสียง

• นำเสนอ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service จากผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก Quinessentially เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach ตลอด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกรถ