452
คนดูทั้งหมด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยผลประกอบการปี 2564

• เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยผลประกอบการปี 2564 ในประเทศไทย แม้ตลาดรถยนต์ลักชัวรีโดยรวมหดตัวลง 9% ในปี 2564 แต่ยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่เติบโตขึ้น 14%

• The new EQS มีกระแสตอบรับล้นหลาม โดยมีลูกค้าแสดงความสนใจผ่านช่องทางดิจิทัลมากกว่า 500 ราย 

• The new EQS รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะถูกผลิต และจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้

• เมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมรถยนต์รุ่นใหม่ไว้สร้างความตื่นเต้นตลอดปี ทั้งจากแบรนด์ Mercedes-Benz, Mercedes-EQ, Mercedes-Maybach และ Mercedes-AMG

• ปี 2564 ยอดสินเชื่อใหม่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ 12% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท หากประเมินจากอัตราการทำสินเชื่อใหม่ในไตรมาสที่ 4 จะเห็นได้ว่ามีอัตราการเติบโตมากขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 

• ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย มียอดธุรกิจรวมมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท

• เดมเลอร์ เอจี รีแบรนด์เป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

• เมอร์เซเดส-เบนซ์กวาดยอดขายทั่วโลกกว่า 2.4 ล้านคันในปี 2564 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาเรื่องซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์

• รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ทำสถิติยอดขายสูงถึง 227,458 คัน หรือเพิ่มขึ้น 69.3% โดย 48,936 คันในจำนวนนั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 154.8%

• ตั้งแต่รถยนต์รุ่น EQS ออกวางจำหน่ายในตลาดโลกในเดือนสิงหาคม 2564 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแฟลกชิพคันนี้ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามามากถึง 16,370 คัน