3.87K
คนดูทั้งหมด
C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ

• บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (EQ Power) เจนเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้แบรนด์ EQ อย่าง Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ โดยนำเสนอในสองรุ่นย่อย

• The C 300 e AMG Dynamic ราคา 3,215,000 บาท

• The C 300 e Avantgarde ราคา 2,699,000 บาท 

Mercedes-Benz C 300 e Avantgarde

• กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม

• ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว

• ไฟหน้าแบบ LED High Performance

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control 

• เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO

Mercedes-Benz C 300 e AMG Dynamic

• กระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน

• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว 

• กันชนหน้า - หลัง และสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling

• เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม

• หลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ ที่เลื่อนเปิด - ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

• พวงมาลัยที่มาพร้อมกับระบบมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

• เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต และมาพร้อมกับ Memory Seat Package 

• C 300 e AMG Dynamic ยังได้นำเทคโนโลยี และรูปแบบการใช้งานมาจาก The S-Class โดยมีระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic Sporty และ Progressive

• โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบกุญแจแบบ KEYLESS-START ในขณะที่รุ่น C 300 e AMG Dynamic จะมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย 

• Mercedes-Benz C 300 e ยังมาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch pad ไม่ว่าจะเป็นระบบ Apple CarPlay™ ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ หรือระบบแผนที่นำทาง 3 มิติรูปแบบใหม่ในรุ่น C 300 e AMG Dynamic เป็นต้น

• อีกทั้งยังได้เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี

• Mercedes-Benz C 300 e ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัย อาทิ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program - ESP®) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system - ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist

• ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system) ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)

• ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist)

• ระบบ DYNAMIC SELECT คือแบบ Sport Sport+ และ Comfort และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth

• ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera)

• ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system และระบบแผนที่นำทางซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาเฉพาะในรุ่น C 300 e AMG Dynamic

• Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี กำลังสูง 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตัน - เมตร ที่ 1,200 - 1,400 ต่อนาที

• ผสานพลังกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 122 แรงม้า จะทำให้ได้ System Output สูงสุดถึง 320 แรงม้า ที่ 4,500 - 5,500 รอบต่อนาที และมีแรงบิดถึง 700 นิวตัน - เมตร

• เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่ (9G-TRONIC)

• Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบผสมที่ต่ำกว่า 45 กรัม ต่อกิโลเมตรเท่านั้น

• Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม - ไอออน รุ่นใหม่ ที่มีขนาดความจุ 13.5 kWh มากกว่าเดิมถึง 111% ผสานกับประสิทธิภาพของเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) ส่งผลให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที หากชาร์จด้วยเครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุด

Mercedes me connect

• เชื่อมต่อระหว่างลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ

• Vehicle status ที่จะบอกสถานะความพร้อมของอะไหล่รถยนต์ และคอยประสานงานแจ้งเตือนทั้งทางลูกค้าและโชว์รูม 

• Remote Service ฟังก์ชันที่ช่วยให้การใช้รถของคุณสะดวกสบายมากขึ้น โดยคุณสามารถเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นล่วงหน้า หรือการสั่งเปิด หรือล็อกประตูรถจากระยะไกล เป็นต้น

• Accident Recovery and break down management ปุ่มรูปโทรศัพท์ เพื่อช่วยเหลือ

• ผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว ทั้งในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉิน รถเสีย หรือสอบถามข้อมูลทั่วไปผ่านคอลเซ็นเตอร์

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• เปิดตัว Mercedes-AMG พร้อมกัน 5 รุ่นในไทย