• MOTOR EXPO 2019 ปิดฉากแล้ว ยอดขายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ภายในงานรวม 44,740 คัน ลดลงจากปีก่อน 16.2% มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น สภาวะเศรฐกิจตกต่ำ สงครามการค้า
• ปัจจัยภายในประเทศ เช่น การปรับขึ้นอัตราภาษีที่ดิน รวมถึงภาษีรถจักรยานยนต์อัตราใหม่คิดตามค่าการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
37,489 คัน
• ยอดขายรถยนต์จาก 34 ผู้ผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น 37,489 คัน ลดลงจากปีก่อน 15.2%
• จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม ‘ซื้อรถ...ชิงรถ’ พบว่ารถยนต์ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ HONDA TOYOTA MITSUBISHI MAZDA MG และ NISSAN
• ปีนี้รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 45.5% มากกว่าปีก่อน (38.9%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 29.2% แฮทช์แบ็ก 12.6% และเก๋งประเภทอื่น 3.7%
• 5 อันดับแรก ได้แก่ HONDA CITY, NISSAN ALMERA, HONDA CIVIC, MAZDA 2 และ TOYOTA YARIS
SUV
• รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.4% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (34.3%)
• 5 อันดับแรก ได้แก่ MITSUBISHI PAJERO SPORT, MG ZS, MG HS, FORD EVEREST และ TOYOTA FORTUNER
รถกระบะ
• รถกระบะมีสัดส่วน 14.5% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (17.2%)
• 5 อันดับแรก ได้แก่ ISUZU D-MAX, TOYOTA REVO, FORD RANGER, MITSUBISHI TRITON และ NISSAN NAVARA
รถหรู
• ยอดขายรวม 4,181 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ BMW, MERCEDES-BENZ, VOLVO, PORSCHE และ AUDI
7,251
• รถจักรยานยนต์จาก 26 ผู้ผลิต ยอดขายรวม 7,251 คัน ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย
• จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม ‘ซื้อมอเตอร์ไซด์...ชิงบิกไบค์’ พบกว่ารถจักรยานยนต์ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ HONDA, YAMAHA, KAWASAKI, HARLEY-DAVIDSON และ GPX
50,000
• ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,251,743 บาท
• ราคาเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ 265,860 บาท
• เงินหมุนเวียนภายในงานราว 50,000 ล้านบาท
• ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,510,307 คน ใกล้เคียงปีก่อน (1,534,961 คน)