• บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ - ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย เปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองวิเคราะห์ความพร้อมของประเทศไทยต่อการพัฒนา และยกระดับการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น กับงานสัมมนา EVolution of Automotive
• นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบันประชาคมโลกให้ความสำคัญกับการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกโดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะตระหนักถึงคุณภาพชีวิตควบคู่กับความต้องการลดภาวะมลพิษในระยะยาว เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีไอเสีย
• การทำงานของมอเตอร์ที่เงียบ จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง อีกทั้งยังเป็นพาหนะที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศจึงช่วยลดภาวะโลกร้อน รวมไปถึงลดมลภาวะฝุ่นพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี
• รัฐบาลในหลายประเทศต่างเริ่มมีมาตรการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าสูงถึงกว่า 1.26 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 74 % จากปี 2017
• ประมาณการว่าในปี 2020 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกว่า 20 ล้านคัน
• MG เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 5 ปี และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงลูกค้าคนไทย จนทำให้มียอดขายสะสมรวมแล้วกว่า 50,000 คัน
• การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ปัจจุบัน SAIC ได้แนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิง (FCV) สู่ตลาดในประเทศจีน และทั่วโลกแล้วกว่า 20 รุ่น
• ในส่วนประเทศไทย MG มีแผนแนะนำ MG ZS EV ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART สู่ตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้
จุดเด่นของรถ EV ของ SAIC มี 3 ประเด็น
1. ประสิทธิภาพสูง
• รถ EV ของ SAIC จะใช้มอเตอร์เป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่เป็นวงกลม ซึ่งรูปแบบสี่เหลี่ยมจะดีกว่ารูปแบบเดิมถึง 10-15% มีแรงดันสูงกว่า 400 โวลต์ (DC 400 Volt)
• ยังมีเทคโนโลยี S-Pedal (Smart Pedal) ที่ออกแบบมาให้สามารถชาร์จไฟได้ขณะเร่งเครื่องหรือลดความเร็วของเครื่องยนต์ ทำให้ไม่สูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เกิดเป็นพลังงานหมุนเวียนขณะขับขี่
2. ความปลอดภัย
• รถ EV ของ SAIC ผ่านมาตรฐาน ISO 026262 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยระดับโลกที่ใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้ง ASIL หรือ Automotive Safety Integrity ในระดับ Level D ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยสูงสุด
• ยังได้รับประกาศนียบัตร UL 2580 ซึ่งเป็นเครื่องการันตีถึงมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของแบตเตอรี่ โดยผ่านการทดสอบในด้านต่าง ๆ ถึง 8 ด้าน ทั้งการลัดวงจรของระบบไฟฟ้า ภาวะฝุ่น การขีดข่วน แรงอัด การทนต่อการกัดกร่อนด้วยจากละอองน้ำเกลือ แช่น้ำ ไฟ การกระแทก เป็นต้น
• รถ EV ของ SAIC ยังมีการปกป้องแบตเตอรี่แบบ 360 องศา (360 Degree Battery Shield) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
3. ความคุ้มค่า
• รถ EV ของ MG มีระบบส่งกำลังไฟที่มีประสิทธิภาพสูง และแบตเตอรี่ให้กำลังไฟที่มากกว่ารถยนต์กลุ่มเดียวกัน
• SAIC ยังได้ลงทุนด้านแบตเตอรี่ อะไหล่ และชิ้นส่วน โดยการร่วมทุนกับผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ทำสัญญาการผลิต และจัดส่งกับซัพพลายเออร์ จึงมี Supply chain ที่ครบถ้วน ดังนั้นผู้ขับขี่จึงมั่นใจได้ว่ารถ EV ของ SAIC มีความปลอดภัยคุ้มค่าในทุกขั้นตอน