• ปัจจุบันตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
• MG เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รู้จัก และเข้าถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้จริง
• MG นำเสนอรถยนต์ในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 2 รุ่น คือ รถเอสยูวีไฟฟ้า MG ZS EV และล่าสุด รถประเภทสเตชั่นแวกอน MG EP
• จากความสำเร็จของ MG ZS EV ที่เข้ามาทำตลาดทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
• MG จึงตัดสินใจเปิดตัว MG EP โดยตอกย้ำแนวคิดที่ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องไกลตัวของผู้บริโภคชาวไทยอีกต่อไป
• รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของระยะทางการขับขี่ ความประหยัด สมรรถนะ ฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอย
• รวมไปถึงราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท
• สรุปองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน ความโดดเด่นของ MG EP
1
• MG EP โดดเด่นด้านมิติตัวถัง พื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่ ภายในกว้างขวางมีพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร
2
• ความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่นอกจากจะไม่ถูกลดทอนในเรื่องของฟังก์ชั่น อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยังเพิ่มเติมในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งรูปแบบ Active และ Passive Safety
3
• สมรรถนะของ EV ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ (EV Performance) MG EP ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้เร่งได้แบบทันใจ ไม่ต้องรอรอบ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 8 วินาที
• ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้ MG EP วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ลดความกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่
4
• ความประหยัด (Low cost of ownership) ในราคาจำหน่ายอยู่ที่ 988,000 บาท
• MG EP เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน จึงมีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ 0-100% เฉลี่ยเพียง 200 บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลเมตร จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมันกว่า 2-3 เท่า
• ในเรื่องของการดูแลรักษาที่ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความกังวล MG เผยค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ 7,828 บาทเท่านั้น
• นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้น MG EP ยังถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่มีมาตรฐานระดับสากล ที่วางจำหน่ายในโซนยุโรปอยู่หลายประเทศ
MG Super Charge
• ปัจจุบันมีผู้ที่ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MG กว่า 2,600 คัน และครองส่วนแบ่งทางการของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถึง 90%
• เพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้แบบไร้กังวล ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นขับขี่ในเมือง หรือขับขี่ออกไปต่างจังหวัด
• MG ลงทุนสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า MG Super Charge ที่รองรับจากชาร์จแบบกระแสตรง หรือ DC Charge
• MG EP รองรับการชาร์จกระแสไฟได้สูงสุด 50 kW ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่ 0-80% ในระยะเวลาเฉลี่ยเพียง 40 นาที
• MG Super Charge ติดตั้งไปแล้วกว่า 115 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายสถานีเพิ่มเติมร่วมกับบางจากอีกกว่า 50 แห่งภายในปีนี้
• รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MG ติดตั้งหัวชาร์จแบบ Type II สำหรับการชาร์จแบบ AC Charge หัวชาร์จแบบ CCS สำหรับการชาร์จไฟเร็ว หรือ DC Charge ทั้งรุ่น MG ZS EV และ MG EP
• จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถไปชาร์จไฟฟ้าที่สถานีบริการอื่น ๆ นอกจาก MG Super Charge ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ของผู้บริโภค
• ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมทั่วประเทศแล้วกว่า 800 แห่งทั้งของจากภาครัฐ และภาคเอกชน
• โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MG กับแคมเปญ ‘เติม-จ่าย-คุ้ม’ ที่มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าถึง 2 ต่อ
• ฟรี ! เงินมูลค่า 100 บาท ใน MG Wallet สำหรับลูกค้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MG ที่สมัครพร้อมลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น i-SMART เป็นครั้งแรก
• ฟรี ! Top up 20% เมื่อลูกค้าเติมเงินผ่าน MG Wallet ในแอพพลิเคชั่น i-SMART เพื่อใช้บริการชาร์จไฟจากสถานี MG Super Charge กว่า 115 แห่งทั่วประเทศ