284
คนดูทั้งหมด
LAMBORGHINI TEMERARIO

• เรนาสโซ มอเตอร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เผยโฉม “Temerario” (เทเมราริโอ) ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นล่าสุด

• Temerario รุ่นที่ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle : HPEV) ของลัมโบร์กินี

• ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแห่งประวัติศาสตร์อย่าง Revuelto (เรเวลโต้) เครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศ ผสานกับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีด และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว

• ขณะที่ Temerario เปิดศักราชใหม่ด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ

• ถือเป็นการเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดของลัมโบร์กินีอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากการเปิดตัว Urus SE (อูรุส เอสอี) ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์เมื่อปีที่ผ่านมา

• Temerario ขุมพลังใหม่ล่าสุด ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร เร่งรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 10,000 รอบต่อนาที นับเป็นรอบเครื่องยนต์สูงสุดสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง

• กำลังสูงสุด 800 แรงม้า แรงบิด 730 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยติดตั้งที่เพลาหน้า 2 ตัว และในชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์ 8 สปีด อีก 1 ตัว มอบกำลังรวมสูงสุดถึง 920 แรงม้า

• Temerario เร่งเครื่องยนต์จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 2.7 วินาที

• จาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.4 วินาที

• ความเร็วสูงสุดที่ 343 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• Temerario ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ อาทิ ดวงไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมด้านหน้าที่มาพร้อมแผงปรับทางลม และช่องรับลม ไปจนถึงอุปกรณ์สร้างการหมุนเวียนของลมใต้ท้องรถ

• ล้วนส่งผลให้แรงกดด้านท้ายเพิ่มขึ้นถึง 103% เมื่อเทียบกับรุ่นฮูราแคน อีโว และเพิ่มได้สูงสุดถึง 158% เมื่อติดตั้งชุดวัสดุ Alleggerita Pack

• ช่องกลางหลังคาที่เชื่อมต่อกับสปอยเลอร์หลัง ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการไหลของอากาศ 

• ขอบฝากระโปรงเครื่องยนต์ด้านข้างที่มีดีไซน์โค้งมน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

• แนวคิดใหม่ในการระบายความร้อนระบบเบรก ยังเข้ามาช่วยยกระดับสมรรถนะโดยรวม ด้วยการระบายความร้อนที่คาลิเปอร์เพิ่มขึ้นถึง 50% และระบายความร้อนจานเบรกได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นฮูราแคน อีโว

• ห้องโดยสาร Temerario สะท้อนแนวคิด ‘Feel like a pilot’ (ความรู้สึกเสมือนเป็นนักบิน) ของลัมโบร์กินีได้อย่างชัดเจน ผ่านตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำ แดชบอร์ดดีไซน์เพรียวบาง

• เบาะนั่งสปอร์ตปรับไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มอบความสบายสูงสุด หรือสามารถเลือกเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และปรับแต่งได้หลากหลาย ทั้งระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และสีสันที่แตกต่างกัน

• ลัมโบร์กินีเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงสุด อาทิ คาร์บอน หนัง และไมโครไฟเบอร์ Dinamica® Corsatex Suede ทั่วทั้งห้องโดยสาร

• องค์ประกอบการตกแต่งภายใน เช่น คอนโซลกลาง ช่องระบายอากาศ แผงประตู แดชบอร์ด พวงมาลัย และคอพวงมาลัย ยังมีให้เลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเป็นออพชันเสริมอีกด้วย

• จอแสดงผล 3 หน้าจอ ได้แก่ แดชบอร์ดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 8.4 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 9.1 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ และฟังก์ชันเสริมประสบการณ์ร่วมขับเสมือนเป็นผู้ช่วยนักบิน 

• ผู้ขับสามารถเข้าถึงกล้องติดรถ ธีมอินเทอร์เฟซที่เปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ และฟังก์ชันขั้นสูงอย่าง Telemetry 2.0 ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

• ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ และคอนโซลกลางช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

• พวงมาลัยติดตั้งปุ่มควบคุมโหมดการขับ ฟังก์ชันยกตัวรถ ปุ่ม “Race Start” ไฟเลี้ยว และ Launch Control

• Temerario มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายถึง 13 รูปแบบ ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบไดนามิกผ่านระบบ ANIMA (Adaptive Network Intelligent Management) ของลัมโบร์กินีได้ 5 โหมดหลัก ได้แก่ Citta, Strada, Sport, Corsa และ Corsa Plus

• แต่ละโหมดจะปรับการส่งกำลัง ระบบช่วงล่าง อากาศพลศาสตร์ และประสิทธิภาพของระบบไฮบริดให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ ตั้งแต่การขับขี่ในเมืองไปจนถึงการเร่งเต็มพิกัดบนสนามแข่ง

• นอกจากนี้ ยังมีโหมดจัดการพลังงานไฮบริดอีก 3 โหมด ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการชาร์จไฟจากแรงเบรก

• เสริมด้วยโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Drift Mode ที่สามารถควบคุม และปรับแรงบิดได้ 3 ระดับ ช่วยให้การควบคุมการหักเลี้ยวแบบโอเวอร์สเตียร์เป็นไปได้อย่างแม่นยำ มอบประสบการณ์ที่ทั้งเร้าใจและควบคุมได้อย่างมั่นใจ

• Temerario เปิดตัวด้วยสองสีพิเศษใหม่ ได้แก่ สีฟ้า Blu Marinus และสีเขียว Verde Mercurius พร้อมมอบอิสระให้ลูกค้าปรับแต่งรถเพื่อสะท้อนตัวตนได้อย่างไม่รู้จบผ่านโปรแกรม Ad Personam ของลัมโบร์กินี ที่นำเสนอสีตัวถังกว่า 400 เฉด รวมถึงลวดลายพิเศษ

• ล้อแม็กรุ่นใหม่ถึง 3 ดีไซน์ และวัสดุที่แตกต่างกัน พร้อมออปชันคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกหลากหลายชิ้นส่วน