• บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รายงานผลการดำเนินงานในระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ด้วยยอดจำหน่ายสะสมระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายน 2563 จำนวนทั้งสิ้น 41,326 คัน หรือคิดเป็น 29.2% สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่ง จากยอดขายรวมรถยนต์นั่ง 141,366 คัน
• ฮอนด้า ซิตี้ ยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนี้ ด้วยยอดขาย 16,950 คัน หรือคิดเป็น 39.3%
• ฮอนด้า ซีวิค และ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยังครองความเป็นผู้นำด้วยยอดขาย 8,656 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 56.7%
• กลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ฮอนด้า เอชอาร์-วี ครองอันดับ 1 มียอดขายสะสม 3,667 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 33%
• กลุ่มรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ครองอันดับ 1 มียอดขายสะสม 1,978 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 43%
• ฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดขายสะสม 2,270 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 45.3%
• พร้อมกันนี้ ฮอนด้าได้ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2563 ที่พร้อมตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยจะเน้นกลยุทธ์ด้านดิจิทัล พร้อมยกระดับงานบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความสะดวก และมั่นใจให้กับลูกค้ารองรับไลฟ์สไตล์แบบ New Normal
• นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 สถานการณ์โควิดในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ทิศทางตลาดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าในช่วงต้นปีแรก แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดยังมีความอ่อนไหวหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งอาจทำให้ประชาชนกลับมาระมัดระวังการใช้ชีวิต และการใช้เงินอีกครั้ง
• ฮอนด้าได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานในหลายด้านเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคใหม่ และยังคงมาตรการ Social Distancing ในโชว์รูม และศูนย์บริการ รวมถึงทุกพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มงวดต่อไป
• ฮอนด้าคาดว่าตลาดรถยนต์รวมในปี 2563 จะมียอดขายรวม 680,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 32% โดยเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 304,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 35%