938
คนดูทั้งหมด
GWM เปิดโพลรถยนต์ไฟฟ้า

• เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) จัดแคมเปญ Get to know Thai Consumers ตลอดเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2563 เพื่อสำรวจความต้องการเกี่ยวกับการซื้อขาย และการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคชาวไทย

• ทีมผู้บริหารยังได้ลงพื้นที่ 5 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความเห็นของคนใช้รถในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมออนไลน์เฟ้นหาแฟนพันธุ์แท้ GWM

• ภายใต้แคมเปญ Get to know Thai consumers เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ร่วมมือกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เพื่อสำรวจความคิดเห็น และพฤติกรรมผู้ใช้รถยนต์ของคนไทย 1,000 คน ทั่วประเทศ

• ซึ่งผลการสำรวจระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) สูงถึง 77.68% โดยมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 28.97% 

• มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัย 26.88%

• อีก 16.96% มองว่าเป็นการช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

• โดยรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่คนไทยสนใจแบ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) 38.69%

• รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicle : HEV) 30.95%

• รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicle : PHEV) 30.36%

• จากผลสำรวจยังพบว่า ยังมีปัจจัยที่ทำให้คนไทยเปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (xEV) แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน คือเรื่องของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 22.02% 

• ขณะที่ 19.05% มองว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่เป็นมิตรมากกว่า และมาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีกว่า

• นอกจากนี้ผลการสำรวจยังระบุประเด็นสำคัญ อื่น ๆ อาทิ 57.74% จะนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ทดแทนทุกกิจกรรมที่เคยใช้งานรถยนต์พลังงานน้ำมัน โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 อันดับแรกในการตัดสินใจซื้อ คือความคุ้มค่า ความปลอดภัย และศักยภาพของรถ 

• คนไทย 99.31% มีความเห็นเชิงบวกต่อรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน และมีมุมมองที่เปิดกว้างต่อเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่จากจีน โดยส่วนใหญ่ยอมรับว่านวัตกรรม และเทคโนโลยีจากจีนนั้น มีความน่าสนใจน่าติดตามในราคาที่เข้าถึงง่าย

• จากการสำรวจยังพบปัญหาหรืออุปสรรคในการซื้อรถใหม่ของคนไทย โดย 34.13% ระบุว่าไม่มีข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ

• 27.08% คิดว่าตัวเลือกในตลาดมีน้อยเกินไป

• 25.30% พบปัญหาการเปรียบเทียบราคาจากหลายที่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ถูกใจ 

• ยังพบประเด็นที่ผู้บริโภคไม่พึงพอใจเกี่ยวกับบริการหลังการขายของบริษัทรถยนต์ โดย 42.76% ประสบปัญหาการใช้เวลานานในการรอสาย หรือรอการตอบคำถามจากเจ้าหน้าที่ในบริการแชทออนไลน์ หรือบริการฮอทไลน์

• ในขณะที่ 41.07% มีความกังวลเรื่องค่าบริการที่อาจจะแพง

• 29.46% ไม่มั่นในคุณภาพการซ่อม หรือกังวลว่าจะมีข้อผิดพลาดจากการซ่อม

• 28.57% ระบุว่าศูนย์บริการอยู่ไกลจากบริเวณที่พักอาศัย ทำให้ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปรับบริการ