• All-New Nissan Serena e-POWER ราคา 1,690,000 บาท
• All-New Nissan Serena e-POWER กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำเงา พร้อมแถบโครเมียมดีไซน์แบบ Next Generation V-Motion
• กันชนหน้า - หลัง ออกแบบให้เป็นสเกิร์ตล่างในตัว
• ไฟหน้า - หลัง เป็นแบบ Full LED
• ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สีทูโทนในดีไซน์ใหม่
• All-New Nissan Serena e-POWER หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูง ให้ภาพคมชัด พร้อมกราฟิกเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ และเลือกการแสดงผลได้ 2 รูปแบบ
• รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
• ปุ่มกดสำหรับเลือกตำแหน่งเกียร์ แทนการโยกคันเกียร์
• N Hold Mode ที่ทำให้สามารถเข็นรถได้ง่ายเมื่อจอด ให้ความสะดวกเมื่อต้องจอดซ้อนคัน
• เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold
• All-New Nissan Serena e-POWER ประกอบด้วยชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ให้พลังสูงถึง 163 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตัน-เมตร
• ออกตัวได้เร็ว เร่งแซงได้อย่างทันใจ มั่นใจ โดยไม่ต้องรอรอบ เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.77 kWH
• ชุดเครื่องยนต์สันดาปสำหรับสร้างกระแสไฟฟ้า เป็นเครื่องยนต์ใหม่รหัส HR14DDe ขนาดความจุ 1,400 ซีซี 3 สูบ แบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น
• เทคโนโลยี Mirror Bore Coating ยังช่วยลดแรงเสียดทาน และลดเสียงจากการสั่นสะเทือน ส่งผลให้เครื่องยนต์เดินได้เรียบ และเงียบมากขึ้น ให้การเดินทางที่ราบรื่น นุ่มนวล มีเสียงรบกวนจากภายนอกน้อย
• All-New Nissan Serena e-POWER ติดตั้งระบบอี-เพดัล สเต็ป (e-Pedal Step) ให้ความสะดวกในการเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว สามารถขับขี่ในเมือง หรือในช่วงการจราจรคับคั่งได้สะดวกสูงสุด
• การขับขี่ด้วย อี-เพดัล สเต็ป สามารถช่วยเพิ่มการฟื้นฟูพลังงานด้วยการชาร์จกระแสไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น
• All-New Nissan Serena e-POWER มีรูปแบบการขับขี่ 3 โหมดหลัก ได้แก่ Standard Mode ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัด Sport Mode ที่เน้นการตอบสนองรวดเร็ว ขับสนุกสไตล์สปอร์ต และ Eco Mode ที่เน้นการประหยัดพลังงาน ให้การขับขี่นุ่มนวล
• ฟังก์ชัน B ที่เพิ่มแรงหน่วง หรือ ช่วยเบรก และเพิ่มการฟื้นฟูพลังงาน หรือ Regenerative
• รวมถึง EV Mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ สัมผัสถึงความเงียบ และอีกขั้นของความประหยัด
• All-New Nissan Serena e-POWER ติดตั้งระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง
• นิสสันได้พัฒนาระบบกันสะเทือน ทั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ และเหล็กกันโคลง ให้แข็งแรงมากขึ้น มีช็อกอัพแบบใหม่ นุ่มนวลเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ทรงตัวดีเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เข้าโค้งได้แม่นยำมากขึ้น
• All-New Nissan Serena e-POWER เบาะหนัง ที่นั่งแถวที่ 2 เป็นที่นั่งแบบ Captain seat ที่มีพื้นที่วางขามากขึ้น เบาะที่นั่งสามารถปรับได้อิสระ 4 ทิศทาง (เลื่อนหน้า-หลัง ซ้าย-ขวา) และแยกออกจากกันได้
• เบาะแถวที่ 3 รองรับ 3 ที่นั่ง เบาะมีความหนานั่งสบาย สามารถปรับพนักพิงให้เอนราบได้
• แม้จะมีกระจกบานใหญ่รอบคัน แต่ไม่ร้อน เพราะหน้าต่างผู้โดยสารตอนหลังเป็นแบบ UV Cut ช่วยลดความร้อน และรังสี UV
• กระจกบานหน้า และหน้าต่างประตูคู่หน้า ยังเป็นแบบ Acoustic Glass หนา 2 ชั้น ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• All-New Nissan Serena e-POWER เพิ่มความสะดวกสบายมากมาย อาทิ ที่วางแก้วมากถึง 17 จุด
• ช่องชาร์จ USB ทุกแถวที่นั่ง รวมทั้งหมด 6 จุด (5 USB-C, 1 USB-A)
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย 1 ตำแหน่ง
• โต๊ะเล็กอเนกประสงค์ในแถวที่ 2 และ 3 สำหรับวางสิ่งของ เช่น กล่องอาหาร หรือ แท็บเล็ตสำหรับเพิ่มความบันเทิงระหว่างการเดินทาง
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยก 3 โซน ปรับอุณหภูมิสำหรับแต่ละโซนได้ตามต้องการ
• ระบบฟอกอากาศแบบ Plasmacluster ที่จะปล่อยอนุภาคขนาดเล็กออกมาเพื่อดักจับแบคทีเรียในอากาศ ฝุ่น และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในห้องโดยสารได้อีกด้วย
• ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 2
• ประตูสไลด์เปิด - ปิด แบบแฮนด์ฟรี
• ฝาท้ายอเนกประสงค์แบบ Dual Back Door หนึ่งเดียวในตลาดรถยนต์แบบ MPV ยังคงเป็นจุดเด่นของ All-New Nissan Serena e-POWER บานประตูน้ำหนักเบา เปิดได้ง่ายทั้งแบบเต็มบาน หรือครึ่งบาน จึงสามารถเปิดฝาท้ายได้แม้จอดชิดด้านหลัง ช่วยให้สัมภาระไม่หล่นลงจากท้ายรถขณะเปิด - ปิด
• ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า
• ระบบเบรกฉุกเฉิน ลดความเสี่ยงจากการชนด้านหน้า
• ระบบเตือนจุดอับสายตา
• ระบบ Intelligent Blind Spot Intervention (IBSI) ทำงานเมื่อรถออกนอกช่องทางขณะระบบ BSW กำลังเตือน พวงมาลัยจะขยับเพื่อคุมรถให้กลับเข้าช่องทางเดิม โดยผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อเปิดระบบ IBSI หลังสตาร์ทรถเพื่อเปิดการใช้งาน
• ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย หรือ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW) จะส่งเสียงเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว
• ระบบ Intelligent Lane Intervention (ILI) เมื่อรถออกนอกช่องทางขณะที่ ระบบ LDW กำลังเตือน พวงมาลัยจะขยับเพื่อคุมรถให้กลับเข้าช่องทางเดิม โดยผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อเปิดระบบ ILI หลังสตาร์ทรถเพื่อเปิดการใช้งาน
• ระบบ Intelligent Cruise Control (ICC) ล็อกความเร็วอัตโนมัติ
• ระบบ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) กระจกมองหลังอัจฉริยะ จะแสดงภาพที่ส่งมาจากกล้องที่ติดตั้งบนกระจกบานหลัง ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านหลังตลอดเวลา ไม่ถูกผู้โดยสารหรือสัมภาระขนาดใหญ่ท้ายรถบดบังการมองเห็น
• ระบบ High Beam Assist (HBA) เปิดไฟสูงอัตโนมัติ
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง
• ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ที่คู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
• เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
• ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาด