• การเดินทางมาถึงเมืองไทยของ Mazda3 เข้ามาสร้างตำนานประดับวงการรถยนต์ของประเทศไทย
• Mazda3 เจเนอเรชั่นแรกวางจำหน่ายระหว่างปี พ.ศ. 2547-2554 มียอดขายสะสมกว่า 30,000 คัน
• เจเนอเรชั่นที่ 2 ปี 2554-2557 มียอดขาย 15,000 คัน
• เจเนอเรชั่นที่ 3 มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ปี 2557-2562 มียอดขายสะสมสูงถึง 32,000 คัน
• ปัจจุบันก้าวเข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 4 เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2562 ภายใต้ตัวถังสองรูปแบบมีทั้งซีดาน และฟาสท์แบค สามารถคว้ารางวัล Thailand Car of the Year 2019 และชนะเลิศเวทีระดับโลกอย่าง World Car Design of the Year 2020 รวมถึงรางวัลอื่นอีกมากมายจากนานาประเทศ
• Mazda3 มีคุณสมบัติโดดเด่นอะไรบ้าง ถึงเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก รวมทั้งลูกค้าชาวไทย
1
• ยืนหนึ่งเรื่องดีไซน์จากโคโดะ เจเนอเรชั่น ที่ 2 ต้นแบบแห่งความสง่างาม รวมทิศทางของแสงและเงาที่สะท้อนลงบนตัวรถ Mazda3 ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
2
• ภายในห้องโดยสาร Mazda3 ใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ได้รับการคัดสรรอย่างประณีต และพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
• จัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม และเน้นหลัก ‘เรียบง่ายแต่งดงาม’ หรือ less is more ลดความซับซ้อน เพิ่มความสะดวกในการใช้งานของห้องโดยสาร
3
• Mazda3 ถูกพัฒนาขึ้นจากท่วงท่าการเดินของมนุษย์ และนำมาต่อยอดเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถตามหลักปรัชญา Jinba-Ittai เพื่อให้ตำแหน่งการขับขี่เป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับสรีระมากที่สุด
• ออกแบบเบาะนั่งเพื่อรองรับกระดูกเชิงกราน และรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้เป็นรูปตัว S ตามธรรมชาติของมนุษย์
• วางตำแหน่งของแป้นเหยียบ การปรับเบาะนั่ง การบังคับพวงมาลัย รวมถึงรูปแบบคอนโซลกลาง และพนักวางแขนก็ถูกออกแบบเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ช่วยให้สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมกับสรีระมากที่สุด
4
• Mazda3 ฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ระบบเบรกที่แม่นยำ และยังมาพร้อมกับระบบการควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถให้การเข้า-ออกจากโค้งเป็นไปอย่างราบรื่นและยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น
5
• Mazda3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ถูกพัฒนาก้าวขึ้นไปอีกระดับด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ผนวกกับหัวฉีดดีไซน์ใหม่ จึงส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง แรงบิดเพิ่มขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
• ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85
• เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด
6
• Mazda3 ห้องโดยสารเงียบ ลดการสั่นสะเทือน และเสียงรบกวนจากภายนอก โดยเลือกใช้โครงสร้างผนังสองชั้น ใช้แผงหลังคา และพรมปูพื้น ที่สามารถดูดซับเสียงความถี่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้ยาง และสปริงที่ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน จึงทำให้ห้องโดยเงียบ
7
• โครงสร้างตัวถังที่ทำจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงพิเศษ (Ultra-high-tensile steel) สามารถดูดซับ และกระจายแรงกระแทกจากด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เพื่อให้เกิดการเสียรูปของห้องโดยสารน้อยที่สุด ลดการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
8
• เทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อุ่นใจทุกการเดินทาง ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนถนนมากมาย อาทิ ระบบควบคุมความเร็ว และพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance
• ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบช่วยเบรก และหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R
• ยังมีระบบแสดงภาพ 360 รอบทิศทาง ถุงลมนิรภัยถึง 7 ตำแหน่ง และระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องอีกเพียบเพื่อเสริมความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
9
• เพิ่มความสะดวกสบายตอบรับสังคมยุคดิจิทัล มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าที่มีความละเอียดสูง เชื่อมต่อการสื่อสารอย่างไร้ขีดจำกัดด้วยระบบ Mazda Connect ที่สามารถรองรับระบบ Apple CarPlay และระบบ Android Auto พร้อมหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมง่ายด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
• ระบบเสียงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง