• • • ฮอนด้า ซีวิค เป็นยนตรกรรมที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมาอย่างยาวนาน และเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุดของฮอนด้า โดยในปัจจุบัน ฮอนด้า ซีวิค มีให้เลือกทั้งแบบ ซีดาน คูเป้ และแฮทช์แบ็ก ซึ่งจำหน่ายในมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 10 ผสานด้วยขุมพลัง VTEC TURBO ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ดีเยี่ยม และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีอีกด้วย
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้รับการพัฒนาโดยมีโครงสร้างพื้นฐานของตัวถัง และเครื่องยนต์เดียวกันกับฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ในส่วนของการออกแบบและงานด้านวิศวกรรม การผลิตและงานขาย ยังได้รับความร่วมมือจากฮอนด้าในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงในแต่ละภูมิภาค
ทีมวิจัยและพัฒนาได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนา ฮอนด้า ซีวิค แฮทซ์แบ็ก ใหม่ เพื่อสร้างสรรค์การขับเคลื่อนที่คืนพลังความเป็นหนุ่มสาวให้กับลูกค้า (Dynamic Rejuvenation) ซึ่งทีมวิศวกรมือหนึ่งของบริษัททั้งในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ต่างร่วมกันมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้ซีวิคเป็นยนตรกรรมคอมแพคท์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเซกเมนต์
ทั้งยังได้เทียบเคียงมาตรฐานกับยนตรกรรมระดับหรู โดยได้ทำการทดสอบภายใต้การใช้งานจริงร่วมกับรถยนต์หรูของยุโรป เพื่อตั้งมาตรฐานในด้านการขับขี่ การบังคับควบคุม เสียง การสั่นสะเทือน ความกระด้าง (NVH) คุณภาพภายในห้องโดยสาร รวมถึงความปราณีตในการออกแบบตัวรถ
ฮอนด้า ซีวิค แฮทซ์แบ็ก ใหม่ ผ่านเงื่อนไขการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง จึงให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังในสไตล์สปอร์ตอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของการทรงตัว ความมั่นใจ พร้อมตำแหน่งที่นั่งคนขับที่ต่ำ ให้อารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ต รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเทอร์โบในเครื่องยนต์เบนซินที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ลักษณะตัวถังยังคงให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง ผสานกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด ซึ่งออกแบบมาให้สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ เอื้อประโยชน์ทั้งในเรื่องความประหยัดน้ำมันและช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ ใช้ตัวถังส่วนหน้า และมีระยะฐานล้อเดียวกันกับ ซีวิค ใหม่ รุ่นปัจจุบัน แต่ระยะตัวถังตั้งแต่เสากลาง หรือ B-Pillar ไปจนถึงด้านท้ายของตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ โดยแนวเส้นหลังคาด้านท้ายจะมีความสูงมากกว่ารุ่นซีดาน เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ในขณะที่ระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านท้ายของตัวรถสั้นลงเพื่อให้อารมณ์ความสปอร์ตตามแบบฉบับรถยนต์สไตล์ยุโรป
ภาพโดยรวมของตัวรถเมื่อมองจากด้านข้างถูกออกแบบให้กว้าง และต่ำลงในสไตล์สปอร์ต โดยมีตัวถังที่กว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร ตัวรถมีความสูงลดลง 20 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้แนวเส้นหลังคามีความเพรียวขึ้น
นอกจากนี้ การออกแบบให้บริเวณช่วงล้อมีขนาดใหญ่ และมีหน้ากว้างมากขึ้น ช่วยให้เกิดการทรงตัวที่ดี ขณะที่ระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น ระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นลง และการปรับปรุงพื้นที่ห้องโดยสารใหม่ ช่วยสร้างสัมผัสพลังแห่งการขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี
การออกแบบด้านหน้าตัวรถของฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ เน้นความสปอร์ต และหรูหรา โดยบริเวณด้านหน้าตัวรถมีระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นลง มาพร้อมกับช่องรับอากาศบริเวณกันชนหน้าที่สวยงามโดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตรูปรังผึ้ง ที่มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่
ในเวลากลางวันแบบ LED ผสานกับลวดลายเส้นสายบนตัวถังที่พาดผ่านตั้งแต่ด้านหน้าตัวรถยาวไปบรรจบกับขอบไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED ในส่วนของกันชนท้ายถูกออกแบบให้มีเหลี่ยมสันที่สวยงาม พร้อมเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาในสไตล์สปอร์ตด้วยช่องระบายอากาศดีไซน์รูปรังผึ้ง
โครงสร้างตัวถังของ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีลักษณะที่ยาวและกว้างขึ้น รวมถึงระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ฝากระโปรงหน้ายังถูกปรับให้ลดต่ำลง และการออกแบบให้เสากระจกบังลมหน้า หรือ A-Pillar บางขึ้น ช่วยลดปัญหาการบดบังทัศนวิสัยบริเวณด้านหน้า และยังช่วยให้มุมมองบนเส้นทางด้านหน้ากว้างขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายยิ่งขึ้น เมื่ออยู่ภายในห้องโดยสาร
สำหรับเบาะที่นั่งด้านหน้า ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับหลักสรีระศาสตร์ โดยเบาะที่นั่งคนขับอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ช่วยสร้างความรู้สึกมั่นใจและอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่วนผู้โดยสารด้านหลังสามารถมองเห็นด้านหน้าได้อย่างชัดเจนขึ้น เนื่องจากการออกแบบรูปทรงส่วนบนของเบาะที่นั่งคู่หน้าให้มีลักษณะที่แคบลง และหมอนรองศรีษะที่มีขนาดกะทัดรัด
นอกเหนือจากความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารแล้ว ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ ยังให้พื้นที่บรรจุสัมภาระด้านท้าย 414 ลิตร โดยพนักพิงของเบาะหลังสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 และความสูงของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายสูง 679 มิลลิเมตร ซึ่งหากปรับพับเบาะที่นั่งด้านหลังลงทั้งหมดจะช่วยเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ยังมาพร้อมม่านปิดสัมภาระที่สามารถเลือกปิดเก็บได้ทั้งซ้ายหรือขวา เพื่อป้องกันการมองเห็นสัมภาระที่อยู่ด้านท้าย
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที โดยใช้เทคโนโลยีหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง พร้อมการออกแบบท่อไอดีแบบตรง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการขับขี่ ด้วยการควบคุมอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่อง USB รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น)
• พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System)
• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) สามารถสั่งการได้จากระยะไกลเพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง โดยขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ทติดอยู่ ประตูรถจะยังคงล็อกเช่นเดิม และรถจะยังไม่อยู่ในสถานะที่พร้อมออกตัวได้ จนกว่ากุญแจรีโมทและผู้ขับขี่จะอยู่ภายในตัวรถ และกดปุ่มสตาร์ทการทำงานของเครื่องยนต์ภายในรถอีกครั้ง
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย โดยสามารถสลับเปลี่ยนข้อมูล และค้นหาตัวอักษรได้ง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ
• โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และเข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) เพียงใช้นิ้วดึงสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลางเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง
• ระบบ Auto Brake Hold เมื่อกดปุ่มเปิดให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อให้อัตโนมัติ หลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาในรุ่น HATCHBACK TURBO ราคา 1,169,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ คือ สีดำมิดไนท์เบอร์กันดี (มุก) และอีก 4 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/civichatchback
หมายเหตุ: สำหรับสีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท สีดำมิดไนท์เบอร์กันดี (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
ภาพ : HONDA / พิชัย มูลจัด