• • • เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ Follow No Others ทาง MG จึงได้จัดกิจกรรมการทดสอบขับ MG GS เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 167 แรงม้า เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์ที่ครบครันทุกรูปแบบ ทั้งสมรรถนะการขับขี่ ฟังก์ชั่นการใช้งาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย
ทดลองขับเส้นทางกรุงเทพฯ-ชัยภูมิ-อุดรธานี ขับขี่สลับมือ 3 คน ระยะทางประมาณ 620 กิโลเมตร ผ่านทางด่วน ทางระหว่างจังหวัด ในเมือง รถติด ถนนสองเลนสวน มีเร่งแซง
บทสรุปตรงตามคอนเซ็ปต์ ‘ครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองและนอกเมือง’
Drive Tripper (ไดร์ฟ ทริปเปอร์) มีเหตุผล 5 ข้อ ที่น่าลงทุนกับ MG GS 1.5 Turbo มาให้พิจารณาว่าตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่
1 : ฟังก์ชั่นการใช้งาน
• หากเทียบราคาจำหน่ายกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดมากับตัวรถ นับว่า MG GS 1.5 Turbo จัดเต็มให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะรุ่นท็อป เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ มีซันรูฟปรับไฟฟ้ามาให้ด้วย
กรอบไฟหน้าฮาโลเจน ส่องสว่างกว้างไกล พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันหรือเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (Daytime Running Lights)
ไฟท้าย LED (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ
ระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
MG GS 1.5 Turbo ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำให้ความสปอร์ตดุดัน
เบาะพับแยกส่วนได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ
ขนาดยาง 215/60 R17
MG GS 1.5 Turbo ใช้หน้าจอมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ 8 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูส คอนโทรล (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
กระจกมองหลัง MG GS 1.5 Turbo เป็นแบบตัดแสงอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
กุญแจอัจฉริยะ และการสตาร์ทรถแบบ Push Start (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
ระบบเครื่องเสียงเพื่อความบันเทิงพร้อมลำโพง 8 ตัว (ยกเว้นรุ่น 1.5 D) รองรับมัลติมีเดีย
2 : ระบบความปลอดภัย
• MG GS 1.5 Turbo ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) พร้อมถุงลม 4 จุด คู่หน้าและด้านข้าง (ยกเว้นรุ่น 1.5 D)
มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM
ABS-Anti-lock Braking System ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน
EBD-Electronic Brake Force Distribution System ระบบช่วยกระจายแรงเบรก
TCS-Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
CBC-Curve Brake Control ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง
SCS-Stability Control System ระบบควบคุมการทรงตัว
AVH-Auto Vehicle Hold ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง
BDC-Intelligent Brake Disc Cleaning ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ
OHBV-Optimized Hydraulic Brake Servo ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม
MSR-Motor Control Slide Retainer ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน
EBA-Electronic Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์
HAS-Hill-Start Assist System ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
EPB-Electronic Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้า
3 : inkaNet ควบคุมได้ ทุกที่ทุกเวลา
• อินคาเน็ต (inkaNet) ไม่ได้เป็นแค่แอพพลิเคชัน แต่เป็นระบบที่ใช้สื่อสารระหว่าง MG GS กับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่ให้ความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรถ การจราจร เส้นทาง ระบบนำทางที่สามารถกำหนดเพิ่มเติมสถานที่ที่สนใจของผู้ขับขี่ได้ด้วยตัวเอง โดยผู้ใช้สามารถใช้งานและสั่งการได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนและหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และวางใจได้ในการขับขี่ในทุกการเดินทาง
ระบบนำทางรถยนต์ ให้ข้อมูลระบบนำทางผ่าน Google Maps และผู้ใช้สามารถเช็คตำแหน่ง MG GS 1.5 Turbo ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน Call Centre ได้แบบ Real time
แจ้งพฤติกรรมการขับขี่ MG GS 1.5 Turbo พร้อมแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ โดยเปรียบเทียบเป็นค่าเฉลี่ย ทั้งแบบราย สัปดาห์และรายเดือน
ระบบเลขาฯ ส่วนตัว ติดต่อ MG Call Centre เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อสอบถามข้อมูลและขอรับคำแนะนำการช่วยเหลือเบื้องต้นต่าง ๆ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวก โดยการส่งเส้นทางการเดินทาง (Point of Interest) มายังหน้าจอวิทยุรถยนต์โดยไม่ต้องค้นหาเองให้เสียเวลา
ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์ สามารถกำหนดไว้ตั้งแต่ 500 เมตร ไปถึง 10 กิโลเมตร จากศูนย์กลาง ในกรณี MG GS 1.5 Turbo ออกนอกรัศมีขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนผ่าน Push notification และส่ง SMS อีกด้วย
การตรวจสอบสถานะรถยนต์ โดยแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันของรถยนต์ว่าปิดอยู่หรือไม่ แจ้งระดับแบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและอุณหภูมิอากาศภายนอก
การควบคุมการทำงานของรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ด้วยการสั่งล็อค/ปลดล็อครถระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือ MG Call Centre หรือจะเป็นการค้นหารถยนต์ด้วยฟังชั่น Find My Car ระบบจะสั่งให้รถเปิดไฟหน้า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหารถในที่มืดได้ง่ายขึ้น
การโทรออกและรับสายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ โดยสามารถรับสายและโทรออก จากหน้าจอวิทยุรถยนต์ไปยังโทรศัพท์เครื่องอื่นได้ แม้มีไม่โทรศัพท์มือถืออยู่บนรถ หรือลืมพกโทรศัพท์มือถือ
MG GS 1.5 Turbo แชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ โดยสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสัญญาณ WI-FI จากหน้าจอวิทยุรถยนต์ โดยวิทยุรถยนต์จะทำหน้าที่เสมือน WI-FI Router ให้เชื่อมต่อกับโลกได้ทุกที่ทุกเวลา
4 : ขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอร์โบ
• ไฮไลท์ตลอดเส้นทางการทดสอบขับ MG GS คือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ TGI-TECH หัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที รองรับเชื้อเพลิง E85 เกียร์อัตโนมัติ TST-7 SPEED ขับเคลื่อน 2 ล้อ
MG แจ้งว่าใช้น้ำมัน E20 ตลอดระยะทางลองขับประมาณ 620 กิโลเมตร สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยเพิ่มจุดแข็งด้านการขับขี่ ซึ่งเป็นจุดสำคัญต่อการก้าวไปข้างหน้าของแบรนด์ MG ในประเทศไทย เพราะถือเป็นมิติใหม่ด้านการขับขี่ MG อย่างแท้จริง
MG GS 1.5 Turbo ขับเนียนกว่ารุ่น 2.0 Turbo ทั้งการออกตัว การเร่งแซงตอบสนองเร็ว ไว้ใจได้เมื่อเผชิญกับเส้นทางสองเลนสวน ถนนไม่เรียบเป็นแบบหลังเต่า ขับผ่านเมือง
เก็บเสียงภายในห้องโดยสารดีขึ้น เสียงอื้ออึงน้อยลง นอกจากเวลาเร่งแซงจะได้ยินสุ่มเสียงที่เร้าใจมากขึ้นยามคิกดาวน์
สปีดต้นออกตัวไว ไม่ต้องกดคันเร่งจนจมมิด เร่งแซงรวบอย่างรวดเร็ว
ระบบพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า พร้อม Paddle Shift (เฉพาะรุ่น X) พวงมาลัยไม่หน่วงมือ สุภาพสตรีสามารถควบคุมได้ง่าย
ช่วงล่างเกาะถนนในโค้งความเร็วที่เหมาะสม นั่งเบาะหลังเอนได้สบาย
ความเร็วเดินทางช่วงถนนโล่ง แตะคันเร่งเบา ๆ ก็ได้ร้อยกว่าแล้ว ช่วง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วในชีวิตประจำวัน MG GS 1.5 Turbo ลอยตัว วิ่งสบาย ๆ ผ่อนคลายตลอดทาง
มองความเร็วจากเข็มไมล์บนหน้าปัด โดยประมาณดังนี้
ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,000 รอบต่อนาที
ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,300 รอบต่อนาที
ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 2,700 รอบต่อนาที
อัตราประหยัดเชื้อเพลิง อีโค สติ๊กเกอร์ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร
5 : ราคาโดนใจ
• มาถึงข้อนี้แล้ว ลองกลับไปไล่เรียงทั้ง 4 ข้อข้างต้นว่าเหมาะสมกับราคานี้หรือไม่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งขันในระดับเดียวกัน
MG GS รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ
รุ่น 1.5 D ราคา 890,000 บาท
รุ่น 1.5 X ราคา 990,000 บาท
เรื่อง : พิชัย มูลจัด
ภาพ : MG
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
• หลังจากเปิดตัวที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปเมื่อปลายปีที่แล้ว สื่อมวลชนหลายท่านสอบถามถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน1.5 ลิตร เทอร์โบ ใน MG GS ใหม่ คำตอบที่ดีที่สุดคือการจัดกิจกรรมทดสอบขับที่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้พิสูจน์ด้วยตนเอง
ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นที่ครบครันเช่นนี้ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า MG GS เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จะสร้างความประทับใจให้แก่สื่อมวลชน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เหนือกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน
การออกแบบภายนอกที่สะดุดตา สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน และทันสมัยด้วยเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นมากกว่า
เรามีความมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหารถระดับซีเซกเมนท์ แต่มีราคาใกล้เคียงกับกลุ่มบีเซกเมนท์
'ความคุ้มค่าและความครบครัน คือคุณสมบัติที่เราต้องการนำเสนอ'
นายพัฒน์พงษ์ สัมพันธารักษ์
กรรมการผู้จัดการ เอ็มจี ชัยภูมิ
• เอ็มจี ชัยภูมิ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2559 โดยมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจแบบเชิงรุก เน้นคุณภาพ และการสร้างเอกลักษณ์ มีทีมที่ปรึกษาด้านการขายและการบริการที่มีความชำนาญ พร้อมด้วยการให้บริการพื้นฐานแบบครบวงจรภายใต้นโยบายการทำงานแบบเชิงรุก ที่มุ่งเน้นการสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าเป็นหลัก
นอกจากนี้พนักงานทุกคนยังพิถีพิถันในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการให้บริการ ที่พร้อมให้บริการอย่างรวดเร็วและในสภาวะที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนด้านกลยุทธ์การบริหาร นอกจากการจัดจำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้แล้ว เรายังมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ เอ็มจี ชัยภูมิ เป็นศูนย์บริการแบบ One Stop Service ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครบวงจร
รวมทั้งยังมีแผนงานที่จะสร้าง เอ็มจี ชัยภูมิ ให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญในอนาคตของอำเภอเมืองชัยภูมิ ด้วยการเพิ่มบริการร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านคาร์แคร์ เพื่อให้บริการด้านการดูแลรักษารถยนต์แก่ชาวชัยภูมิ ทั้งที่เป็นลูกค้า เอ็มจี และที่ยังไม่ได้เป็น และยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมการโปรโมทแบรนด์ เอ็มจี ให้เป็นที่รู้จักของชาวชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น
นายวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์
กรรมการผู้จัดการ เอ็มจี อุดรธานี
• เอ็มจี อุดรธานี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ การให้ความสำคัญและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
จัดจำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ทุกรุ่นด้วยทีมที่ปรึกษาด้านการขายและการบริการอันยอดเยี่ยม พร้อมด้วยการให้บริการพื้นฐานแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจเช็คระยะ การซ่อมบำรุง และการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ จากพนักงานคุณภาพที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้พนักงานทุกคนยังพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการให้บริการ ครบครันด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและอะไหล่แท้จาก เอ็มจี ที่มีพร้อมให้บริการอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วยการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลาการรับประกัน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
กลยุทธ์หลักอีกประการหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่ การสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ เอ็มจี ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในห้างสรรพสินค้า
ยังเน้นการเข้าไปทำประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานราชการ และองค์กรเอกชนต่าง ๆ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในรถยนต์ เอ็มจี อย่างต่อเนื่องโดยการเน้นให้มีการทดลองขับจริง
ให้ความสำคัญและเน้นย้ำกับพนักงานทุกคนในด้านคุณภาพของการให้บริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า (Service Mind) พร้อมด้วยการให้บริการอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญคือความพร้อมของบริการหลังการขาย ที่ต้องรวดเร็ว ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า