• Drive Tripper (ไดร์ฟ ทริปเปอร์) นำ MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ราคา 789,000 บาท รีวิว (REVIEW) ในสไตล์ขับขี่ท่องเที่ยว

• MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ทาง MG แจ้งว่าได้เติมแก๊สโซฮอล์ 95 มาให้แล้ว แน่นอนว่าอาจจะมีน้ำมันต่างออกเทนค้างถังจากมือทดสอบก่อนหน้านี้ Drive Tripper เติมเพิ่มอีกนิดหน่อยให้เต็มถัง เซท 0 ใหม่ โดยมีระยะทางขับขี่ 320 กิโลเมตร

• นั่งสองคน ไม่บรรทุก ออกเดินทางช่วงเที่ยง ดวงอาทิตย์ตรงศีรษะก็รู้สึกถึงไอร้อนบ้าง เพราะ MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ติดตั้งซันรูฟแบบพาโนรามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อีกทั้งฝ้าบังแดดจากหลังคากระจกใช้ผ้าเป็นม่านกั้น

• ไม่กล้า Hello MG เดี๋ยวจะเผลอสั่งงานด้วยเสียงให้ซันรูฟเปิด เกรงว่าตัวจะเกรียม (ฮา)

• อย่างไรก็ตาม แดดส่องซันรูฟประเดี๋ยวประด๋าว ขับไปเรื่อย ๆ องศาที่แดดส่องหลังคาก็เปลี่ยนทิศ

• แฟนคลับ MG ZS ยังคิดว่าออพชั่นจัดเต็มขนาดนี้ น่าจะมีที่เท้าแขนระหว่างเบาะคู่หน้าเหมือนสเปคนอก

• อีกหนึ่งไฮไลท์ MG ZS คือระบบ i-SMART สั่งงานภาษาไทย ให้เปิด-ปิดซันรูฟ หรือเร่ง-เบาแอร์

• แจ้งข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรก

• เบาะหลังนั่งสบายหรือไม่ จุดนี้แล้วแต่สมาชิกของแต่ละครอบครัว หากขนของพะรุงพะรัง MG ZS สามารถบรรทุกได้อย่างสะดวก

ART OF SALT

• Drive Tripper ขับ MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ความเร็วทางราบกับการจราจรโล่ง ๆ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• จากนั้นวิ่งเลียบชายฝั่งทะเลไปจนถึงที่จัดงาน ART OF SALT ครั้งที่ 6 ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี

• ตอนนี้แม้หมดงานแล้ว แต่ประติมากรรมเกลือบางส่วนยังตั้งไว้ให้เข้าไปถ่ายภาพ

• เส้นทางไป ART OF SALT เข้าทางคลองโคน ขับเลียบนาเกลือไปเรื่อย ๆ เลยแหลมผักเบี้ยไปไม่ไกล

594.2

• MG ZS เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว กำลัง 114 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที รองรับ E85 เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

• เครื่องยนต์บล็อกนี้ พัฒนาต่อยอดจาก MG3 และ MG5 โดยอัพจาก 106 แรงม้า เป็น 114 แรงม้า ส่วนแรงบิดจาก 135 นิวตัน-เมตร เป็น 150 นิวตัน-เมตร และจูนเกียร์ใหม่

• ทริปนี้คลายข้อสงสัยว่าพลัง 1,498 ซีซี กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ และประหยัดน้ำมันแค่ไหน

• Drive Tripper ขับจากกรุงเทพฯ มางาน ART OF SALT ครั้งที่ 6 จากนั้นขับเข้ากรุง

• ต่อเนื่องด้วยขับออกจากมหานคร วิ่งมอเตอร์เวย์ไปศรีราชา ถึงตอนนี้รวมระยะทาง 449.3 กิโลเมตร ยังเหลือน้ำมันให้วิ่งต่ออีก 164 กิโลเมตร

• จากศรีราชาเข้าเมืองกรุง Drive Tripper ขับ MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X เข้ามอเตอร์เวย์ เลี้ยวซ้ายไปทางบางวัว ต่อถนนบางนา-ตราด จะได้หาปั๊มน้ำมันง่ายหน่อย

• ใช้งานจริงคงไม่ปล่อยให้น้ำมันนอนก้นถัง ทำเพื่อเป็นข้อมูล โดย MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X พอน้ำมันใกล้จะหมด ระดับน้ำมันจะลงเร็วมาก เหลือ 1 ขีด กะพริบ แล้วตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้จะหายไป มองครั้งสุดท้ายประมาณ 60-70 กิโลเมตร

• หยุดที่บางบ่อ ระยะทาง 594.2 กิโลเมตร เติมน้ำมัน E85 กลับคืนเข้าไปจำนวน 47.05 ลิตร (ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร) เฉลี่ย 12.62 กิโลเมตรต่อลิตร เต็มถัง MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ไปต่อ 739 กิโลเมตร

สมรรถนะเป็นมิตรกับนักแรมทาง 

• MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X กับน้ำมันถังแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่าเป็นรถอเนกประสงค์ของ MG ที่มีความก้าวหน้าด้านอัตราประหยัดเชื้อเพลิง เป็นมิตรกับการใช้งานทั่วไปมากขึ้น และเป็นการพิสูจน์ถึงการพัฒนาเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดของ MG ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมบนท้องถนนบ้านเรา

• พวงมาลัยควบคุมง่าย เหมาะมือ และสามารถปรับน้ำหนักได้ คือในเมือง (Comfort) มาตรฐาน (Normal) และสปอร์ต (Sports)

• MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X สมรรถนะไม่หวือหวา วูบวาบ ใช้งานทั่วไป 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าได้จังหวะความเร็วลอยตัวมาก็ส่งพ้น ปรับสักครู่ก็จะชินกับการควบคุม นับว่านั่งขับสบาย ทัศนวิสัยดี

• ความเห็นส่วนตัวของ Drive Tripper พบว่า MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X เสียงรบกวนในห้องโดยสารถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสำหรับตัวถังรถลักษณะนี้

• อยากให้ปรับปรุงระบบเบรก เพิ่มจังหวะหนืดอีกเล็กน้อยเมื่อแตะเบรกครั้งแรก จะได้ไม่ต้องแตะเบรกลึกเกินไป

E85

• MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ตะลอนในเมืองด้วยน้ำมัน E85 รวมระยะทาง 188.4 กิโลเมตร น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งต่อ 275 กิโลเมตร

• เติมน้ำมันกลับเข้าไป 16.87 ลิตร เฉลี่ย 11.16 กิโลเมตรต่อลิตร เต็มถังไปต่อ 403 กิโลเมตร 

• MG ZS รุ่นท็อป รุ่น X ติดตั้ง Daytime Running Light

• ยางขนาด 215/50 R17

• ภายในทูโทน เบาะหนังสังเคราะห์

• พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ ลำโพง 6 ตัว

• ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบี

• หากคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ซันรูฟแบบพาโนรามา MG ZS ยังมีทางเลือกอีกสองรุ่น

• MG ZS รุ่น D ราคา 729,000 บาท และรุ่นเริ่มต้น MG ZS รุ่น C ราคา 679,000 บาท

• เติมอีก 60,000 บาท หากรอคิวรับรถได้ ออพชั่นครบ ๆ ต้องจัดรุ่นท็อป รุ่น X ราคา 789,000 บาท มีอุปกรณ์ที่เพิ่มจากรุ่น D ได้แก่ ระบบ i-Smart, ซันรูฟ, ครุยซ์ คอนโทรล, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ TPMS-Tire Pressure Monitor System ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง

• MG ZS จัดเต็มระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น CBC ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, SCS ระบบควบคุมการทรงตัว, HAS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, Emergency Stop Signal ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน

• ABS ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน, EBD ระบบช่วยกระจายแรงเบรก, EBA ระบบเสริมแรงเบรก, TCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล

• Follow Me Home Light ไฟส่องสว่างนำทางหลังจากเครื่องยนต์ดับ, จุดยึดเบาะที่นั่งเด็ก ISOFIX, กล้องมองหลังขณะถอยจอด

• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, เข็ดขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง, พวงมาลัยยุบตัวเมื่อเกิดการชน, กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย

• วินาทีนี้เทียบราคาจำหน่าย ออพชั่น กับขนาดตัวถังของ MG ZS ทำให้หลายท่านที่กำลังมองหารถเก๋งในราคาไล่เลี่ยกันจะออกอาการลังเล 

• สุดท้ายต้องไปลองขับ ตรวจสอบอุปกรณ์มาตรฐานรุ่นต่อรุ่น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง

เรื่อง / ภาพ : พิชัย มูลจัด

ลิงก์ที่น่าสนใจ

• ALL-NEW MG3 เที่ยวภูลังกา

• MG เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในไทย